1-2-3-4 pattern คือ อะไร ?
1-2-3-4 pattern คือรูปแบบราคาและการเคลื่อนไหวของราคา รูปแบบหนึ่ง ซึ่งถูกคิดขึ้นโดย Jeff Cooper ที่อาศัยดำรงชีพด้วยการเทรดในตลาดหุ้น ซึ่งเขาคนนี้มีชื่อเสียงในด้านการเล่นสั้น เป็นพวกสาย Swing trading อาศัยการเข้าออกอย่างรวดเร็วในการทำกำไรจากการเทรด … ทั้งนี้เราสามารถนำรูปแบบนี้มาประยุกต์ใช้ในตลาด Forex ได้เช่นเดียวกันครับ
รูปแบบการเทรดในตลาด Forex ก็เป็นรูปแบบของการเคลื่อนไหวของราคา เช่น เดียวกัน
สิ่งที่แตกต่างระหว่างตลาดหุ้นกับตลาด Forex คือ ความผันผวน
คำว่าความผันผวน มากกว่าหมายความว่า มีปริมาณการซื้อขายมาก
ทำให้ราคาแกว่งตัวในระยะสั้น ๆ อยู่บ่อยครั้ง
ทำให้รูปแบบการวิเคราะห์บางรูปแบบสามารถใช้ด้วยกันได้
หลักการของการเทรดรูปแบบ 1-2-3-4 คือจะหาช่วงที่ตลาดเป็นแนวโน้ม หรือ Runaway market และจะรอจังหวะเข้าเมื่อช่วงตลาดย่อตัวระยะสั้น โดยให้เหตุผลว่าอาศัยข้อได้เปรียบในการย่อตัวของแนวโน้มนั้นเป็นข้อได้เปรียบในการเทรด
ซึ่งเบื้องหลังการเทรดรูปแบบนี้มาจากงานวิจัยของ W.D. Gann ที่ได้ศึกษาว่าการพักตัวในช่วงของตลาดที่เป็นแนวโน้มที่แข็งแกร่งนั้น
จะพักตัวไม่เกิด 3 วัน และปรับตัวไปต่อตามแนวโน้มเดิม
นี่เลยเป็นที่มาของรูปแบบ 1-2-3-4 pattern นี้
รูปแบบ 1-2-3-4 pattern ประกอบด้วย
ในการเทรดรูปแบบ 1-2-3-4 จะต้องอาศัยเครื่องมือและองค์ประกอบในการวิเคราะห์ โดยจะมีเครื่องมือหลัก ๆ ในเบื้องต้นดังต่อไปนี้
– ADX
– วิเคราะห์แท่งเทียน
– เล่นตามแนวโน้มใหญ่ อาศัยการเข้าในจังหวะที่พักตัวของแนวโน้มใหญ่
เงื่อนไขของ Set up นี้
สำหรับฝั่ง ซื้อ ต้องทำตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ทุกข้อ และสำหรับฝั่ง Sell ก็ใช้เงื่อนไขตรงกันข้ามกันกับเงื่อนไขด้านล่าง
-
ADX > 30
-
+DI (14-day) > -DI (14-day)
-
รอช่วงที่ตลาดพักตัว 3 วัน (1-2-3 correction)
-
ซื้อ (ตั้ง Buy stop) เมื่อราคาทะลุ High ของ 3 วันที่พักตัว
-
เมื่อ Match ให้ตั้ง Stop loss ที่บริเวณรอบ Swing low (Low ของ 3 วันที่พักตัว)
-
เมื่อกำไร ให้ตั้ง Trailing stop เพื่อ Lock กำไร
ตัวอย่างครับ
เพื่อความเข้าใจที่มากขึ้น เราจึงขอยกตัวอย่าง การใช้งานรูปแบบ 1-2-3-4 ในตัวอย่างกราฟดังต่อไปนี้

-
ADX > 30 และ +DI > -DI
B.
-
1. ราคาทำ Lower low
-
ทำ Lower Low ต่อ
-
ทำ Lower low ต่อเป็นครั้งที่ 3
-
ซื้อเมื่อราคาทะลุเหนือ High ของ 3 แท่งเทียนก่อนหน้า ตั้ง Buy stop เหนือบริเวณดังกล่าว (1 ticks หรือตามความเหมาะสม)
จากนั้นราคาก็ปรับตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มเดิม
จริงๆแล้วรูปแบบนี้ออกแบบมาเพื่อเทรดในตลาดหุ้น
แต่พอรูปแบบนี้เริ่มได้รับความนิยมก็มาเทรดเดอร์หลายท่านนำหลักการนี้มาใช้กับตลาดอื่นๆ
ทั้งพวกสินค้าโภคภัณฑ์ ตลาด Futures และรวมทั้งตลาด Forex เช่นเดียวกัน
ข้อจำกัดของระบบเทรด
ต้องบอกอย่างนี้ครับว่า
ไม่มีระบบเทรด หรือ รูปแบบใดที่จะทำให้เราได้กำไรร้อยเปอร์เซ็นต์
มันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับเรื่องนี้ มันเป็นทุกวงการ
ไม่มีนักฟุตบอลที่ยิงฟรีคิกได้ทุกมุมทุกองศา และเข้าทุกลูก
ไม่มีนักบาสเก็ตบอลที่ยิง 3 แต้ม ลงแบบจับวางทุกที่
ไม่มีใครทำนายการเคลื่อนไหวของราคาได้ทุกที่ หลายคนอาจจะบอกว่า การยิงไกล
Free kick หรือ 3 แต้มนั้นไม่ใช่การพยากรณ์ จริง ๆ แล้ว 2
อย่างที่ว่ามามันคือ การพยากรณ์ มันคือศาสตร์แห่งการกะน้ำหนัก
อันนี้ก็เหมือนกัน การเทรด มันก็ไม่แตกต่างกันเลย มันใช้ทักษะเช่นเดียวกัน
ฉะนั้นแล้วสำหรับคนที่ไม่มีทักษะในการเทรด
การใช้ Pattern 1-2-3-4 ในการเทรด
จริงเป็นสิ่งที่ต้องฝึกและอาศัยเวลาในการทำให้ชำนาญ
เทรดเดอร์จะต้องฝึกหนักจนกระทั่งพฤติกรรมราคานั้นซึมซับเข้าไปในสมองของเรา
แล้วความแม่นยำก็จะค่อย ๆ เพิ่มขึ้น ซึ่งการเทรด Forex แตกต่างจากกีฬาประเภทอื่น ตรงไหนหน่ะหรือ? ก็ตรงที่มันไม่ได้ใช้ร่างกายมากเท่าไหร่ ทำให้ยิ่งแก่ ยิ่งมีประสบการณ์
อย่างที่บอกหลักการของรูปแบบค่อนข้างมีเหตุและผล เป็นการเล่นตามแนวโน้ม อาศัยจังหวะ Pullback ของราคาแล้วค่อยเข้าตาม เป็นการเทรดที่ความเสี่ยงค่อนข้างน้อย แต่ผลตอบแทนค่อนข้างมาก ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ คราวหน้าถ้ามีรูปแบบเจ๋งๆอย่างนี้อีก เดี๋ยวจะมานำเสนอให้เพื่อนๆเทรดเดอร์ Forex มาศึกษากันนะครับ
เครดิต https://www.forexthai.in.th
|