กระเป๋าเงิน Mt. Gox เคลื่อนไหวโดยได้ย้าย 10,000 BTC ไปยังกระดานเทรดอื่นๆ
กระเป๋าเงิน Mt. Gox เคลื่อนไหวโดยได้ย้าย 10,000 BTC ไปยังกระดานเทรดอื่นๆ crypto wallet ที่เป็นของกระดานเทรดคริปโตที่ปิดตัวลงอย่าง BTC-e เพิ่งย้าย 10,000 Bitcoin ซึ่งปัจจุบันมีมูลค่ามากกว่า $165 ล้านไปยังกระดานเทรดต่าง ๆ กระเป๋าเงินส่วนบุคคล (personal wallets) และแหล่งอื่น ๆ ตั้งแต่วันที่ 23 พฤศจิกายน
จากรายงานของ Chainalysis กล่าวว่าการถอนเงินครั้งนี้เป็นการถอนเงินที่ใหญ่ที่สุดโดย BTC-e ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2018 BTC-e และ WEX กระดานเทรดขั้นอัปเกรดของ BTC-e
โดยทั้งคู่ส่ง BTC จำนวนเล็กน้อยไปยังช่องทางการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ของรัสเซีย Webmoney ในวันที่ 26 ตุลาคม ก่อนทำทดสอบการชำระเงินในวันที่ 11 พฤศจิกายน และหลังจากนั้นโอนออกอีก 100 BTC ในวันที่ 21 พฤศจิกายน
จำนวนทั้งหมดที่ส่งไป 9,950 BTC นั้นคิดว่ายังคงอยู่ในกระเป๋าเงินส่วนบุคคล ส่วนที่เหลือถูกย้ายผ่านตัวกลางก่อนที่จะจบลงที่ที่อยู่เงินฝากสี่แห่งในกระดานเทรดขนาดใหญ่สองแห่ง
Ki Young Ju บริษัทวิเคราะห์บล็อกเชน Cryptoquant ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ ได้ตรวจสอบและพบว่า 0.6% ของเงินทุนถูกส่งไปยังกระดานเทรดและอาจเป็นตัวแทนของสภาพคล่องด้านการขาย
ในทวีตเมื่อวันที่ 24 พ.ย. Young Ju ได้แบ่งปันรูปภาพของการโอนซึ่งเน้นย้ำว่า BTC อยู่ในกระเป๋าเงินมานานกว่า 7 ปี
Young Ju ยังกล่าวอีกว่า 65 BTC ถูกโอนไปยังกระดานเทรด HitBTC และ Young Ju เรียกร้องให้พวกเขาระงับบัญชีสำหรับกิจกรรมที่น่าสงสัย
Mt. Gox คือเว็บเทรดคริปโตในโตเกียวซึ่งเคยมีธุรกรรม Bitcoin สูงกว่า 70% และในปี 2014 ถูกแฮ็กโดยมีการขโมย Bitcoin นับพัน และถูกฟ้องล้มละลายหลังจากนั้นไม่นาน
BTC-e ซึ่งมีเซิร์ฟเวอร์ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา ได้ปิดเว็บไซต์และเงินถูกยึดโดยสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (FBI) ในปี 2017 หลังจากถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการฟอกเงิน รวมถึงเหตุการณ์ถูกแฮ็กของ Mt. Gox
จากข้อมูลของ Chainalysis ในช่วงเวลาของการปิดระบบ BTC-e ยังคงมี Bitcoin จำนวนมากอยู่ในนั้นและในเดือนเมษายน 2018 ได้ย้าย BTC มากกว่า 30,000 BTC ออกจากกระเป๋าเงิน
จะเห็นได้ว่ายังมีผู้ที่ไม่หวังดีที่ยังหาผลประโยชน์จากอุตสาหกรรมคริปโตหนึ่งในนั้นรวมถึงผู้ที่แฮ็กกระดานเทรดคริปโตอันดับสองของโลกอย่าง FTX โดยได้กระจายเหรียญ ETH เกือบ 200 ล้านดอลลาร์ใน 12 กระเป๋าเงิน
(Source : cointelegraph.com)