Moving Average (MA) คืออะไร ? และวิธีใช้งาน

27 พฤษภาคม 2022
miso435

Moving Average (MA) คืออะไร ? และวิธีใช้งาน

Moving Average (MA) เป็น อินดิเคเตอร์ ที่ใช้หาค่าเฉลี่ยของราคา โดยจะนำราคาปิด จุดสูงสุด และจุดต่ำสุด มาหาค่าเฉลี่ยในช่วงเวลาที่เรากำหนด  เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่มีผู้ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากที่สุดตัวหนึ่ง ใช้ในการบอกทิศทาง  แนวโน้มของตลาด ( Trend ) หรือ หาแนวรับ ( Support )  แนวต้าน ( Resistance ) และอาจใช้เป็นสัญญาณในการซื้อขาย ก็ได้เช่นกัน เส้นMoving Average (MA) ที่นิยมใช้กันมีอยู่ 2 ชนิด คือ Simple Moving Average (SMA) และ Exponential Moving Average (EMA)

วิธีใช้งาน  เส้นMoving Average (MA)

  1. ใช้หาแนวโน้มของราคา ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เส้น Exponential Moving Average (EMA) ในการบอกเทรนด์เพื่อเป็นการยืนยันว่าแนวโน้มนั้นๆเป็นแนวโน้มอะไร
ตัวอย่าง  จากรูปด้านบน เราจะใช้เส้น  EMA 20 ตัดกับเส้น EMA 50 ถ้าหากว่า เส้น EMA ที่มีค่าน้อย อยู่ด้านบน เส้น EMA ที่มีค่ามาก แสดงว่า ราคา ณ ขณะนั้น เป็นแนวโน้มขาขึ้น  แต่ถ้าหากว่า เส้น EMA ที่มีค่าน้อย อยู่ด้านล่าง เส้น EMA ที่มีค่ามาก แสดงว่า ราคา ณ ขณะนั้น อยู่ในช่วงแนวโน้มขาลง 

2. ใช้หาแนวรับแนวต้าน  ( Support and Resistance ) ส่วนใหญ่จะนิยมใช้เส้น Simple Moving Average (SMA) เนื่องจาก SMA จะให้ความสำคัญในการคำนวณแต่ละวันเท่าๆกัน แต่ EMA จะให้ความสำคัญของราคาล่าสุด จึงทำให้ EMA แกว่งตัวตามราคาปัจจุบันเป็นราคาที่ไม่คงที่ จึงหาแนวรับแนวต้านที่ดีนั้นทำได้ยากกว่า เราจึงนิยมใช้ SMA มากกว่า

ตัวอย่าง จากรูปด้านบน เราจะใช้เส้น SMA 14 (สามารถเปลี่ยนค่าตัวเลขได้ตามความถนัดของแต่ละคนได้เลย) ในการหา แนวรับแนวต้าน  ( Support and Resistance ) เมื่อแท่งเทียนมีการขยับเข้ามาใกล้หรือสัมผัสกับเส้น SMA 14 แล้วเกิดสัญญาณการกลับตัว บริเวณนั้นอาจเป็นแนวรับแนวต้านที่สำคัญ

3. ใช้วิเคราะห์ Momentum ของราคา คือ ดูความสามารถของราคาที่เคลื่อนที่ตามแนวโน้ม หรือ ใช้ดูว่าราคานั้นมีโอกาสเปลี่ยนแปลงแนวโน้มหรือไม่ ซึ่งส่วนใหญ่ จะใช้ เส้น moving average ทั้งหมด 3 เส้น คือ EMA 20 , 50 และ 100  มีวิธีการวิเคราะห์ได้ดังนี้

จากตัวอย่าง รูปด้านบน ถ้าเส้น EMA 20(สีแดง) และ EMA 50(สีฟ้า) ทั้งสองเส้น ตัดกับ เส้น EMA 100(สีเหลือง) ขึ้นด้านบน  และ เส้น EMA 20 อยู่ด้านบน EMA 50 จะเรียกว่า Momentum ขาขึ้น หรือมีโอกาสเปลี่ยนแปลงเป็นแนวโน้มขาขึ้น นั่นเอง
และ ถ้าเส้น EMA 20(สีแดง) และ EMA 50(สีฟ้า) ทั้งสองเส้น ตัดกับ เส้น EMA 100 ลงมาด้านล่าง  และ เส้น EMA 20 อยู่ด้านล่าง EMA 50 จะเรียกว่า Momentum ขาลง หรือมีโอกาสเปลี่ยนแปลงเป็นแนวโน้มขาลง นั่นเอง
ข่าวฟอเร็กซ์และสกุลเงิน
บทความ
ฟรีซิกแนล
เฟสบุ๊ค
แอดไลน์