ทำความรู้จักกับ 3 หัวข้อหลัก ในการเทรดรูปแบบ Chart Pattern

19 สิงหาคม 2022
kongpop

ทำความรู้จักกับ 3 หัวข้อหลัก ในการเทรดรูปแบบ Chart Pattern

ทำความรู้จักกับ 3 หัวข้อหลัก ในการเทรดรูปแบบ Chart Pattern

ทำความรู้จักกับ 3 หัวข้อหลัก ในการเทรดรูปแบบ Chart Pattern

รูปแบบ Chart Pattern คือรูปแบบหรือรูปร่างที่มองเห็นได้ภายในกราฟที่ราคาบอกใบ้ว่าราคาเคลื่อนที่ไปทางไหนต่อ ในการวิเคราะห์เราใช้เพื่อค้นหาแนวโน้มการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคต

Reversal Chart Patterns

Reversal Chart Patterns หรือรูปแบบกราฟกลับตัวคือรูปแบบกราฟที่ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มปัจจุบันกำลังจะเปลี่ยนเส้นทาง หากรูปแบบกราฟกลับตัวเกิดขึ้นระหว่างแนวโน้มขาขึ้น แสดงว่าแนวโน้มจะกลับตัวและราคาจะดิ่งลงในไม่ช้า ในทางกลับกัน หากเห็นรูปแบบกราฟกลับตัวในช่วงขาลง แสดงว่าราคาจะขยับขึ้นเช่นกัน

เราครอบคลุมรูปแบบแผนภูมิ 6 รูปแบบที่ให้สัญญาณการกลับตัว ได้แก่

  • Double Top
  • Double Bottom
  • Head and Shoulders
  • Inverse Head and Shoulders
  • Rising Wedge
  • Falling Wedge

ในการเทรดรูปแบบกราฟเหล่านี้ เพียงแค่ตั้งออร์เดอร์นอกเส้น neckline ในทิศทางของแนวโน้มใหม่ จากนั้นไปรอราคาไปตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่เกือบจะเท่าความสูงของรูปแบบ

ตัวอย่างเช่น หากคุณเห็น double bottom ให้ตั้งออเดอร์ long ที่ด้านบนของเส้นneckline และรอราคาไปตามเป้าหมายที่เคลื่อนที่เกือบจะเท่าความสูงระยะห่างจากด้านล่างถึงเส้น neckline

อย่าลืมต้องจุดตัดขาดทุนด้วยตัวอย่างเช่น เราสามารถวัดระยะห่าง รูปแบบ double bottoms จากเส้น neckline หารด้วยสอง และใช้เป็นราคาของจุดตัดขาดทุน

Continuation Chart Patterns

Continuation Chart Patterns หรือรูปแบบแผนภูมิต่อเนื่อง คือรูปแบบกราฟที่ส่งสัญญาณว่าแนวโน้มจะเคลื่อนที่ต่อไปเรื่อยๆไม่มีเปลี่ยนเทรน

โดยปกติแล้ว รูปแบบเหล่านี้เรียกอีกอย่างว่ารูปแบบ consolidation patterns เพราะแสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อหรือผู้ขายหยุดเทรดชั่วคราวก่อนที่จะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดียวกับแนวโน้มก่อนหน้า แนวโน้มรูปแบบ Continuation Chart Patterns จะมีการพักตัวของราคาชั่วคราว ไม่ว่าจะอยู่ในเทรนขาขึ้นหรือลง จากนั้นราคาจะเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มเดิมต่อ

ครอบคลุมรูปแบบ Continuation Chart Pattern หลายรูปแบบ ได้แก่ wedge, rectangles และ pennants แต่ว่า wedges สามารถพิจารณาได้ทั้งรูปแบบ reversal หรือ continuation ขึ้นอยู่กับแนวโน้มที่เกิดขึ้น

ในการเทรดรูปแบบพวกนี้ เพียงแค่ตั้งออเดอร์ที่ด้านบนหรือด้านล่างของรูปแบบ นั้นๆ (แน่นอนว่าตั้งตามทิศทางของแนวโน้มเดิม)

จากนั้นจึงเลือกจุด TP อย่างน้อยมีขนาดเท่ากับรูปแบบสำหรับ wedge และ rectangles สำหรับ pennants เราสามารถกำหนดกำไรให้สูงขึ้นได้หรืออย่างน้อยความสูงของเสาธงก็ได้เหมือนกัน

สำหรับรูปแบบ continuation patterns มักจะวางจุด SL ตามรูปแบบกราฟของเส้นด้านบนหรือด้านล่าง ตัวอย่างเช่น เมื่อทำการซื้อขายรูป bearish rectangle ให้วางจุด SL ของเรา 2-3 จุดเหนือด้านบนหรือแนวต้านของรูปแบบ rectangles

Bilateral Chart Patterns

รูปแบบนี้ค่อนข้างยุ่งยากกว่าเล็กน้อย เนื่องจากเป็นสัญญาณว่าราคาสามารถเคลื่อนไหวได้ทั้งสองทาง
ได้แก่

ในการเทรดด้วยรูปแบบพวกนี้ เราต้องพิจารณาทั้งสอง scenarios (เบรกขึ้นหรือเบรกลง) โดยตั้งออเดอร์ทั้งบนและล่างของเส้นเทรนไลน์หรือเส้นแนวรับแนวต้าน

หากคำสั่งหนึ่งถูกทริกเกอร์ เราสามารถยกเลิกคำสั่งอื่นได้ ซึ่งมีโอกาสมากกว่าการเทรดแบบหน้าเดียว แต่ปัญหาเดียวคือเราสามารถเกี่ยว false break ได้หากคุณตั้งออเดอร์ใกล้กับรูปแบบด้านบนหรือด้านล่างมากเกินไป

เคยได้ยินมั้ยครับว่า…..
ความเป็นไปได้เป็นสองเท่า ความสนุกเป็นสองเท่า!!!

ดูคำศัพท์ทั่วไปทั้งหมด

สมัครเปิดบัญชีเทรดกับเรารับ ฟรี SERVER ฟรี VPS และ ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Expert Advisor (EA)

แจ้งใช้ SERVER-VPS ที่นี่