วิธีการเทรดในแนวรับและแนวต้าน
วิธีการเทรดในแนวรับและแนวต้าน ตอนนี้เมื่อเรารู้พื้นฐานของการซื้อขายด้วยแนวรับและแนวต้านแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะใช้เครื่องมือทางเทคนิคขั้นพื้นฐานพวก ที่มีประสิทธิภาพมากเหล่านี้มีส่วนช่วยในการเข้าซื้อขาย
เราจึงแบ่งวิธี ใช้เส้นแนวรับและแนวต้านออกเป็นสองแนวคิดง่ายๆ: Bounce และ Break
The Bounce
การซื้อขายโดยแนวรับและแนวต้านหลังจากเกิด “Bounce”
เทรดเดอร์ forex รายย่อยส่วนใหญ่ทำพลาดในการตั้งออเดอร์ที่ระดับเส้นแนวรับและแนวต้าน จากนั้นเพียงแค่รอให้การเทรดของพวกเขาเกิดขึ้น
แน่นอนว่าวิธีนี้อาจใช้ได้ในบางครั้ง แต่เทคนิคซื้อขายประเภทนี้ อาจเป็นไปได้ราคาอาจจะไม่ไปแตะแนวรับแนวต้านที่เราคาดไว้ตรงนั้นจริงๆ ก็ได้
คุณอาจจะคิดว่า “ทำไมไม่ตั้งออเดอร์ที่เส้นล่ะ? ด้วยวิธีนี้มั่นใจได้ว่าได้ในราคาที่ดีที่สุด”
เมื่อเล่นแบบวิธี Bounce เราต้องหาเส้นแนวรับแนวต้านของเราและหาตัวคอนเฟิร์มว่าเส้นที่เราตั้งไว้นั้นมีนัยยะสำคัญ
ตัวอย่างเช่น แทนที่จะเปิดหน้า Buy ทันที เราต้องการรอให้มันเด้งออกจาก “แนวรับ” ก่อนที่จะเข้า
หากเราต้องการที่จะเปิดหน้า short คุณต้องรอให้มันดีดตัวออก “แนวต้าน” ก่อนที่จะเข้า
ด้วยการทำเช่นนี้ เราสามารถหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่ราคาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและทะลุผ่านแนวรับและแนวต้าน
The Break
ส่วนในโลกของการเทรดฟอเร็กซ์ที่สมบูรณ์แบบ เราสามารถเข้าและออกเมื่อใดก็ตามที่ราคาแตะระดับแนวรับและแนวต้านหลักเหล่านั้น และรับเงินจำนวนมาก
แต่ความจริงคือระดับเหล่านี้มักแตก…บ่อยครั้ง
ดังนั้น แค่วิธีเดียวไม่พอ เราควรต้องรู้ด้วยว่าต้องทำยังไง เมื่อหลุดเส้นแนวรับและแนวต้าน
มีสองวิธีในการเล่นแบบ “Break” : aggressive way หรือ conservative way
Aggressive Way
วิธีที่ง่ายที่สุดในการเล่นแบบเบรกเอ้าท์คือ การ buyหรือ sell เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ราคาผ่านแนวรับหรือแนวต้านแล้ว
เราต้องการให้ราคาทะลุผ่านก่อนจากนั้นค่อยเปิด Position
The Conservative Way
ลองนึกภาพสถานการณ์สมมตินี้: คุณตัดสินใจ ซื้อ EUR/USD โดยหวังว่าราคาจะเพิ่มขึ้นหลังจากเด้งกลับจากระดับแนวรับ
หลังจากนั้นไม่นาน แนวรับก็โดนเบรก และตอนนี้กำลังอยู่ในสถานะที่ขาดทุน โดยยอดเงินในบัญชีของคุณจะค่อยๆ ลดลง
A: ยอมรับความพ่ายแพ้
หรือ…
B: ยึดมั่นทนถือต่อและหวังว่าราคาจะสูงขึ้น
หากคุณเลือกวิธีที่สอง คุณจะเข้าใจวิธีการซื้อขายประเภทนี้ได้ง่าย
โปรดจำไว้ว่า เมื่อใดก็ตามที่คุณปิดโพซิชั่น คุณจะอยู่ในฝั่งตรงข้ามของการเทรด
ทำการปิดการซื้อขายคู่สกุลเงิน EUR/USD ที่ใกล้ต้นทุน และชอร์ต EUR/USD ในจำนวนเท่ากัน
ปรากฏการณ์นี้เป็นสาเหตุหลักว่าทำไมระดับแนวรับที่จุดนี้ จะกลายเป็นแนวต้านทันทีที่มันทะลุลงมา
อย่างที่คุณน่าจะเดาได้ การใช้ประโยชน์จากปรากฏการณ์นี้คือความอดทน
แทนที่จะเข้าเมื่อ break ให้รอให้ราคาทำการ “pull back” ไปที่แนวรับหรือแนวต้าน และเข้าหลังราคาเด้งกลับ
“คำเตือน” ใน FOREX สิ่งนี้ไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา “RETESTS” เกี่ยวกับแนวรับและแนวต้าน จะมีหลายครั้งที่ราคาจะเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้ามและเราจะตกรถ เราควรให้ใช้คำสั่งตั้งจุดขาดทุนเสมอ และไม่ควรถือต่อเพราะเรามีแค่ความหวัง