รูปแบบ Falling Wedge คืออะไร
รูปแบบ Falling Wedge คืออะไร Falling Wedge หรือ รูปลิ่มขาลงเป็นรูปแบบแผนภูมิที่เกิดขึ้นจากการวาดเส้น descending trend lines 1 เส้นสำหรับด้านบนและอีกเส้นสำหรับด้านล่าง Falling Wedge จัดประเภทเป็นรูปแบบ bullish reversal
ความชันของเส้นแนวโน้มที่แสดงถึงด้านบนนั้น ชันกว่าความชันของเส้นแนวโน้มที่แสดงด้านล่าง ซึ่งบ่งบอกว่าเส้นด้านบนลดลงเร็วกว่าเส้นด้านล่าง
จะมีการปรับตัวอย่างน้อย 5 ครั้ง (สองต่อหนึ่งเทรนด์ไลน์และสามครั้งสำหรับเทรนด์ไลน์ที่เหลือ) เพื่อสร้างรูปแบบ Falling Wedge ที่ดี
รูปร่างที่ได้จะดูเหมือนรูปลิ่มที่แคบลงเรื่อยๆ ทำให้ได้ชื่อรูปแบบนี้
เนื่องจากเส้นแนวโน้มที่อธิบายรูปแบบลิ่มขาลงนั้น เคลื่อนที่แบบ descending ดังนั้น falling wedges จึงถูกมองว่าเป็นรูปแบบ continuation patterns สำหรับแนวโน้มขาลงในบางครั้ง
การที่รูปแบบเทรนที่ลดลงทำให้เทรดเดอร์ที่เป็นหมีเปิด sell ต่อเนื่อง และเทรดเดอร์ที่ชอบกระทิงจะพยายามซื้อตรงจุดแนวรับที่แข็งแกร่ง หลังจากมีการทำราคาเรื่อยๆและไม่สามารถเบรกเส้นแนวรับได้ ความกดดันในการขายจึงค่อยๆ ลดลง แนวต้านระดับบนถูกทำลาย และราคาพุ่งขึ้นและเริ่มมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
falling wedge ควรใช้เป็นสัญญาณซื้อที่แข็งแกร่งและบ่งชี้ว่าการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้นกำลังใกล้เข้ามา
Falling wedges มักจะเกิดขึ้นหลังจากผ่านจุดไคลแม็กซ์ (บางครั้งเรียกว่า “panic“) ซึ่งเป็นการพลิกกลับของแนวโน้มขาขึ้นอย่างกะทันหัน ที่มีปริมาณมาก
ราคาภายใน falling wedge มักคาดว่าราคาจะไม่ต่ำกว่าราคาที่เราคิดไว้และจบลงด้วยการทะลุผ่านเส้นแนวโน้มบน ในระหว่างการสร้างรูปแบบ falling wedge ปริมาณมักจะลดลงก่อนและหลังจากที่มี volume เพิ่มขึ้นการพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงก็จะเกิดขึ้นและทะลุราคาผ่านเส้นแนวโน้มด้านบนและหากเกิด gap ก็จะมีประสิทธิภาพที่จะเกิดรูปแบบนี้โดยสมบูรณ์เช่นกัน
สรุปคือการที่รูปนี้ falling wedge มีโอกาสเกิดขึ้นได้ มี 1. Gaps 2. high volume หรือ ปริมาณที่มาก
ในสถานการณ์ที่ไม่เกิดขึ้นบ่อย ตามแนวโน้มขาขึ้น รูปแบบ falling wedge รูปแบบจะแสดงราคาที่ลดลงทีละน้อย แต่ในกรณีส่วนใหญ่ ราคาจะจบลงด้วยการทะลุผ่านเส้นบน และไปต่อตามแนวโน้มก่อนหน้า