วิธีการตั้ง Stop Loss จากเส้นแนวรับและแนวต้าน
วิธีการตั้งจุดขาดทุนที่มีประสิทธิภาพอีกวิธีนึงคือยึดตามกราฟในตลาด เนื่องจากเรากำลังเทรดอยู่ในตลาดอยู่การทำตามเกมของตลาดก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน
สิ่งหนึ่งที่เราสามารถสังเกตได้จากการเคลื่อนไหวของราคาคือมีบางครั้งที่ราคาไม่สามารถทะลุเกินแนวรับหรือแนวต้านที่ถูกทดสอบซ้ำๆหลายครั้งที่เรากำหนดได้
การตั้ง stop loss ที่ดีคือตั้งจุดที่ต่ำหรือสูงกว่าระดับแนวรับและแนวต้านที่เราตี เพราะหากราคาเคลื่อนทีเกินพื้นที่แนวรับหรือแนวต้านที่เราตีหรือถูกเบรกได้ ก็มีแนวโน้มที่ราคาจะสามารถดำเนินต่อไปได้ต่อเนื่องเนื่องจากกองทุนหรือสถาบันรายใหญ่กำลังดันราคาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
จากกราฟด้านบน เราจะเห็นได้ว่าตอนนี้ราคาได้เบรกเส้นเทรนไลน์นี้ได้และเราตัดสินใจที่จะเปิดออเดอร์ long แต่ก่อนที่เราจะเปิดออเดอร์เราต้องพิจรณาปัจจัยเหล่านี้ก่อนได้แก่
- เราจะตั้งจุด SL ตรงไหน
- เงื่อนไขใดบ้างที่จะบอกเราได้ว่าเมื่อไหร่ที่การเทรดของเราเป็นโมฆะหรือใช้งานไม่ได้
ในกรณีนี้ การตั้งจุด SL ที่เหมาะสมที่สุดของเราจะอยู่ใต้เส้นแนวโน้มและพื้นที่แนวรับ
แต่หากกรณีที่ราคาได้เบรกลงไปได้แสดงว่าเส้นแนวโน้มไม่ได้แรงสนับสนุนจากฝั่งซื้อและเป็นไปได้ที่กำลังจะเข้าสู่ฝั่งคนขายและขา short การเทรดของเราจะเป็นโมฆะและเราต้องออกจากการเทรดในทันทีและยอมรับการขาดทุนในครั้งนี้
ยกตัวอย่างการ Short EUR/USD
ในตัวอย่างกราฟ EUR/USD มีแนวโน้มที่ลดลง โดยได้ตีเส้นแนวโน้มขาลง (falling trendline) และราคาได้เทส 2-3 ครั้งซึ่งบ่งบอกว่าระดับแนวต้านนี้ใช้งานได้
ในการเทรดให้เราวางคำสั่ง short ได้ที่เส้นแนวโน้มขาลง (downtrend line) ที่จุด 1.3690 โดยตั้งจุดตัดขาดทุนหยุดไว้ที่ 1.3800 และตั้งจุด Take Profit ไว้ที่ 1.3530 และ 1.3450
หากราคาถูก triggered เส้นแนวโน้มถือเป็นแนวต้านและราคาจะตกลงหลังการเทสและเราจะได้กำไร
ในกรณีที่ 2 หาก จุด TP ครั้งที่ 2 ของเราพลาด pip เดียวเพราะราคาไม่ลงไปถึงและหากราคาย้อนกลับขึ้นมาให้เราย้ายจุด SL ไปที่จุดคุ้มทุน (จุดตั้งออเดอร์ short) จะทำให้เราไม่ขาดทุนใดๆ เลย ดังรูป
(ขอบคุณข้อมูลจาก : babypips.com)