Hyperinflation คืออะไร??
Hyperinflation เป็นสภาวะที่ราคาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนผิดปกติ เนื่องจากค่าเงินของประเทศกำลังสูญเสียจุดยืน
หรือพูดง่ายๆ ก็คือ สภาวะเงินเฟ้อที่รวดเร็วมาก ซึ่งโดยปกติเเล้วอัตราเงินเฟ้อที่ขึ้นต่อเดือนนั้นจะไม่มากถึง 10%
โดยปกติเเล้วเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นนั้น มักจะมาจากเหตุผลที่ว่า การผลิตเงินเพิ่มในระบบมากกว่า GDP ส่งผลให้เกิดความไม่สมดุลของอุปทานเเละความต้องการการใช้เงิน
ซึ่ง Hyperinflation นั้น มักจะใช้ก็ต่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อรายเดือนเกิน 50 %
เมื่อปริมาณเงินเพิ่มขึ้น ความต้องการใช้เงินก็ลดลง ที่จริงแล้วภาวะเงินเฟ้อรุนแรงมักส่งผลให้มูลค่าเงินลดลงอย่างรวดเร็ว
hyperinflation ไม่เพียงแต่ทำให้เงินไร้ค่า แต่ยังทำลายเศรษฐกิจไปพร้อม ๆ กัน
ตัวอย่างเช่น ภาวะเงินเฟ้อของเวเนซุเอลา ในปี 2559
ในช่วงวิกฤตการเงินครั้งใหญ่ ซิมบับเว ได้อุบัติการณ์เงินเฟ้อสูงเป็นอันดับสองในประวัติศาสตร์ อัตราเงินเฟ้อของประเทศในเดือนพฤศจิกายน 2551 อยู่ที่ 79,600,000,000%
อะไรทำให้เกิดภาวะ hyperinflation?
ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงมักเกิดขึ้น เมื่อปริมาณเงินเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตทางเศรษฐกิจ พูดง่ายๆคือเกิดจากการเพิ่มจำนวนเงินในระบบเศรษฐกิจอย่างมาก
ปริมาณเงินที่เพิ่มขึ้นมักเกิดจากการที่รัฐบาลพิมพ์เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในประเทศมากขึ้น เนื่องจากมีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ราคาจึงสูงขึ้นตามกัน
ผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อมากเกินไปคืออะไร?
ภาวะเงินเฟ้อรุนแรง (hyperinflation) จะทำให้ค่าเงินท้องถิ่นลดลงอย่างรวดเร็ว เนื่องจากราคาสินค้าและบริการสูงขึ้นอย่างมากพร้อมกับปริมาณเงินที่เพิ่มขึ้น
สถานการณ์ดังกล่าวมักทำให้ผู้ถือสกุลเงินท้องถิ่นลดการถือครองและเปลี่ยนไปใช้สกุลเงินต่างประเทศที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ซึ่งโดยส่วนมากมักจะใช้สกุลเงินกลาง หรือไม่ก็สกุลเงินของประเทศเพื่อนบ้าน
ในความพยายามที่จะหลีกเลี่ยงการจ่ายในราคาที่สูงขึ้นเนื่องจากภาวะเงินเฟ้อรุนแรง หลายๆคนมักจะเริ่มกักตุนสินค้าคงทน เช่น อุปกรณ์ เครื่องจักร เครื่องประดับ ฯลฯ
ในสถานการณ์ที่ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงเป็นเวลานาน และผู้คนส่วนมากมักจะเริ่มกักตุนสินค้าที่เน่าเสียง่าย
เมื่อราคาสูงขึ้น ผู้คนก็กักตุนสินค้ามากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการสินค้าสูงขึ้นและราคาสูงขึ้นอีก เเละมันจะวนลูปแบบนี้ขึ้นไปเรื่อยๆ ทำให้ผลสุดท้ายเเล้วราคาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
และหากภาวะเงินเฟ้อรุนแรงยังคงไม่ลดลง เกือบทุกครั้งจะทำให้เศรษฐกิจล่มสลายครั้งใหญ่ในที่สุด
ภาวะเงินเฟ้อรุนแรงอย่างรุนแรงอาจทำให้เศรษฐกิจในประเทศเปลี่ยนไปใช้เศรษฐกิจแบบแลกเปลี่ยนซึ่งส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความเชื่อมั่นทางธุรกิจ
ตัวอย่างเช่น ด้วยอัตราการว่างงานเกิน 70% กิจกรรมทางเศรษฐกิจในซิมบับเวปิดตัวลงและเปลี่ยนเศรษฐกิจภายในประเทศให้เป็นเศรษฐกิจแลกเปลี่ยน
นอกจากนี้ยังสามารถทำลายระบบการเงินได้เนื่องจากธนาคารไม่ต้องการให้กู้ยืมเงิน