ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นหลังเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่า ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าของตลาดเอเชียในวันพฤหัสบดี หลังจากเฟด (Federal Reserve) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 25 จุด หรือ 0.25% ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลง
ราคาน้ำมันร่วงลงในวันพุธหลังเฟด (Federal Reserve) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยตามที่คาดและส่งสัญญาณว่ามีแผนจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากต้องรับมือกับภาวะเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นส่งผลไม่ดีต่อความต้องการของน้ำมัน
และภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ส่งผลกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์เช่นกัน โดยนักลงทุนคาดการว่าภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นทำให้เฟด (Federal Reserve) ต้องตัดสินใจนโยบายการเงินแบบ Hawkish
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 83.16 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) เพิ่มขึ้น 0.5% เป็น 76.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ช่วงนี้นักลงทุนกำลังรออัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรปและธนาคารแห่งอังกฤษ ซึ่งทั้งสองคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 50 จุด หรือ 0.50% และส่งสัญญาณความเข้มงวดของนโยบายมากขึ้น ซึ่งเป็นอีก 1 สัญญาณที่เพิ่มโอกาสให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวในปีนี้
องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตรหรือ Organization of Petroleum Exporting Countries (OPEC+) ยังคงรักษาระดับการผลิตไว้ตามเดิมในระหว่างการประชุมเมื่อวันพุธ ซึ่งส่งผลในระยะสั้นต่อราคาน้ำมันเช่นกัน
หากมองไปที่ประเทศจีน ถึงแม้ว่าการผ่อนคลายนโยบายโควิด 19 ของจีนข้อมูลเศรษฐกิจของประเทศจีนจะดีขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา แต่ข้อมูลอีกพาร์ทนึงยังแสดงให้เห็นว่าพื้นที่บางส่งนของประเทศจีนยังต้องรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อที่สูงขึ้น
การระบาดโควิด 19 ในประเทศจีนส่งผลกระทบต่อความสั่นคลอนของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งไม่มีความแน่นอนว่าภาคเศรษฐกิจจะฟื้นตัวมื่อใด แต่หากภาคเศรษฐกิจฟื้นตัวจริงๆ ก็จะสามารถขับเคลื่อนอุปสงค์น้ำมันดิบให้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
(Source : investing.com)