การค้ารัสเซีย-ญี่ปุ่นพุ่งแม้ถูกคว่ำบาตร
การค้าระหว่างรัสเซียและญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 10% ต่อปีในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2565 แม้ว่าชาติตะวันตกจะคว่ำบาตรต่อมอสโกก็ตาม ตามการประมาณการของ TASS ตามสถิติการค้าของญี่ปุ่น ในแง่การเงิน มีรายงานว่าการค้าทวิภาคีมีมูลค่า 2.365 ล้านล้านเยน (ประมาณ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์)
การเพิ่มขึ้นดังกล่าวมีสาเหตุหลักมาจากความผันผวนของตลาดพลังงานโลก เนื่องจากราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้นเนื่องจากเศรษฐกิจกลับมาเปิดทำการอีกครั้งหลังโควิด-19 ตามมาด้วยมาตรการคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียและมาตรการตอบโต้ของมอสโก
รัสเซีย หนึ่งในผู้ผลิตและผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก ยังคงเป็นหนึ่งในผู้จัดหาก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) รายใหญ่ให้กับญี่ปุ่น ประเทศที่ถูกคว่ำบาตรมีสัดส่วนประมาณ 9% ของการนำเข้าน้ำมันเชื้อเพลิงของญี่ปุ่น ก๊าซรัสเซียคิดเป็น 3% ของการผลิตไฟฟ้าในญี่ปุ่น
ดังนั้น ราคาก๊าซที่พุ่งสูงขึ้นในปี 2565 ส่งผลให้การนำเข้าของญี่ปุ่นจากรัสเซียในรูปตัวเงินเพิ่มขึ้น 35% เป็น 1.82 ล้านล้านเยน (เกือบ 13.9 พันล้านดอลลาร์) ในขณะเดียวกัน การส่งออกของญี่ปุ่นไปยังรัสเซียลดลง 30.7% เป็น 540 พันล้านเยน (ประมาณ 4.14 พันล้านดอลลาร์)
โตเกียวลดการซื้อน้ำมันดิบของรัสเซียจนเกือบเป็นศูนย์ในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม นอกจากนี้ ญี่ปุ่นยังได้เข้าร่วมแผนการจำกัดราคาน้ำมันที่นำมาใช้โดยกลุ่มประเทศG7เมื่อเดือนที่แล้ว กลไกดังกล่าวห้ามสินค้าน้ำมันของรัสเซียที่มีการซื้อขายสูงกว่า 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลจากการรับบริการหลักจากบริษัทตะวันตก ซึ่งรวมถึงการประกันภัย เพดานราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด
การคว่ำบาตรรัสเซียของญี่ปุ่นมีเป้าหมายที่องค์กรมากกว่า 50 แห่งและบุคคลมากกว่า 900 คน นอกจากนี้ ทางการญี่ปุ่นยังได้อายัดทรัพย์สินของธนาคารรัสเซียและทรัพย์สินของบริษัทและองค์กรเกือบ 40 แห่ง
(ที่มา : สำนักข่าว RT)