น้ำมันวันนี้พุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ หลังเคอร์ดิสถานหยุดส่งออกน้ำมัน

น้ำมันวันนี้พุ่งขึ้นกว่า 3 ดอลลาร์ หลังเคอร์ดิสถานหยุดส่งออกน้ำมัน ราคาน้ำมันพุ่งกว่า 3 ดอลลาร์เมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่ยกเลิกการส่งออกพื้นที่บางส่วนของอิรักบวกกับสถานการณ์ภาคธนาคารมีแนวโน้มดีขึ้นเนื่องจากเข้าอุ้มธนาคาร

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) เพิ่มขึ้น 4.2% ปิดที่ 78.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อคืนที่ผ่านมา
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐปิดที่ 72.81 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5.1% หรือ 3.55 ดอลลาร์

สาเหตุที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น มาจากการที่ตุรกีตัดสินใจจะหยุดสูบน้ำมันดิบจากเคอร์ดิสถานผ่านทางท่อส่งน้ำมัน ตามคำตัดสินของอนุญาโตตุลาการที่ยืนยันว่า จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากเมืองหลวงของอิหร่านในการขนส่งน้ำมัน ซึ่งการส่งออกจากเคอร์ดิสถานมีจำนวนถึง 450,000 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของปริมาณน้ำมันทั่วโลก

การสูญเสียน้ำมันที่อาจเกิดขึ่นจาก Kurdistan สามารถชดเชยผลกระทบของผลกระทบของการผลิตและอุปทานของรัสเซียในการหาทางเข้าสู่ตลาด ทำให้ต้องลดการผลิตในภูมิภาคเคอร์ดิสถาน

มากไปกว่านั้นแล้ว First Citizens BancShares กล่าวว่าจะได้รับเงินฝากและเงินกู้จากธนาคาร Silicon Valley ที่ล้มละลาย ซึ่งเป็นการปิดบทหนึ่งของวิกฤตความเชื่อมั่นที่ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงิน

และยังมีความหวังที่จะได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมสำหรับการระดมทุนจากธนาคารหลังจากมีรายงานว่า ทางการสหรัฐฯ กำลังพิจารณาก่อนกำหนดเกี่ยวกับการขยายวงเงินกู้ฉุกเฉิน

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากความกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนทางการเมือง หลังจากที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินของรัสเซียประกาศแผนการที่จะติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุส

ทั้งนี้ แม้ถ้อยแถลงของรองนายกรัฐมนตรี Alexander Novak ของรัสเซียระบุว่า มอสโกใกล้จะบรรลุเป้าหมายในการลดปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลง 500,000 บาร์เรลต่อวันเหลือประมาณ 9.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่การส่งออกน้ำมันดิบของรัสเซียคาดว่าจะยังคงทรงตัวเนื่องจากการลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นในเดือนเมษายน

(Source : reuters.com)