น้ำมัน WTI ร่วงกว่า 1 บาร์เรลหลังประกาศข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐสูงขึ้น
น้ำมัน WTI ร่วงกว่า 1 บาร์เรลหลังประกาศข้อมูลสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐสูงขึ้น ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในการซื้อขายช่วงเช้าของเอเชียในวันพุธ หลังจากร่วงลงมากกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในช่วงก่อนหน้า เนื่องจากข้อมูลอุตสาหกรรมเผยให้เห็นปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเกินคาด
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 85.38 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ลดลง 19 เซนต์ ปิดที่ 78.87 ดอลลาร์
ตัวเลขของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกันที่อ้างโดยแหล่งข่าวในตลาดระบุว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐเพิ่มขึ้นประมาณ 10.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 กุมภาพันธ์ สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งการเพิ่มขึ้นในครั้งนี้อาจส่งสัญญาณความต้องการเชื้อเพลิงที่ลดลง
สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้นประมาณ 846,000 บาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นประมาณ 1.7 ล้านบาร์เรล ตามแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ
นอกจากนี้ การประกาศของกระทรวงพลังงานสหรัฐ (DOE) ในสัปดาห์นี้ยังส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบอีกด้วยว่าจะขายน้ำมัน 26 ล้านบาร์เรลจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ของประเทศ ซึ่งอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ทศวรรษ
ในทางกลับกัน โอเปกได้เพิ่มการคาดการณ์การเติบโตของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2566 เมื่อจีนกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง และลดการคาดการณ์อุปทานสำหรับผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกรายใหญ่ ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดจะตึงตัวขึ้น
โอเปกกล่าวว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกจะเพิ่มขึ้น 2.32 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) หรือ 2.3% ในปีนี้ เพิ่มการคาดการณ์จากเดือนกุมภาพันธ์ 100,000 bpd ซึ่งช่วยพยุงราคา
(Source : investing.com)