ราคาน้ำมัน WTI ร่วงกว่า 3 ดอลลาร์จากวิกฤตธนาคารสหรัฐ

ราคาน้ำมัน WTI ร่วงกว่า 3 ดอลลาร์จากวิกฤตธนาคารสหรัฐ ราคาน้ำมันร่วงลงหลังเปิดตลาดในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ล่าสุดของธนาคารในสหรัฐที่ล้มละลายทั้งหมดถึง 3 ธนาคาร ทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้น และล่าสุดรอข้อมูล CPI ที่จะประกาศเย็นนี้เพื่อเฝ้าดูทิศทางของตลาดน้ำมันต่อไป

น้ำมันเบรนท์ (Brent) ลดลง 0.4% สู่ระดับ 80.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
น้ำมัน West Texas Intermediate ลดลง 0.5% สู่ระดับ 74.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สัญญาทั้ง 2 ลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนในวันจันทร์

ก่อนหน้านี้ราคาน้ำมันทั้งสองร่วงลงราวๆ 2-3 ดอลลาร์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังจากกังวลว่าการล่มสลายของธนาคาร Silicon Valley เมื่อเร็วๆ นี้ อาจส่งผลกระทบไปสู่เศรษฐกิจในวงกว้าง และแม้รัฐบาลสหรัฐฯ จะเข้าแทรกแซงเพื่อควบคุมผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ก็ไม่สามารถทำให้เทรดเดอร์หลายๆ คน คลายความกังวลกับเรื่องนี้ได้

นอกจากนี้แล้ว การล่มสลายของธนาคารสะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางทางเศรษฐกิจจากอัตราดอกเบี้ยที่สูง ทำให้นักลงทุนกังวลว่า จะเกิดสถานการณ์ที่คล้ายคลึงกันกับธนาคารอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้อุปสงค์น้ำมันลดลงอย่างมากตลอดทั้งปี เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ในตอนนี้ ข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐในเดือนกุมภาพันธ์ มีกำหนดประกาศในตอนเย็นของวันนี้ ได้กลายเป็นจุดสนใจในปัจจุบัน สัญญาณใดๆ ที่บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงทรงตัวตลอดทั้งเดือนทำให้เฟดมีแรงกระตุ้นมากขึ้นในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย

ยังไม่มีความแน่นอนว่าธนาคารกลางจะดำเนินการตามนโยบายที่รัดกุมอย่างไร ท่ามกลางความเปราะบางทางเศรษฐกิจที่กำลังดำเนินอยู่

ข้อมูลราคา Fed Fund futures แสดงให้เห็นว่า เฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุด ในสัปดาห์หน้า โดยเทรดเดอร์ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับขึ้น 25 bps และมีเทรดเดอร์ส่วนน้อยคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อตลาดน้ำมันจนถึงปี 2022 และทำให้ราคาตกต่ำจนถึงปี 2023 นอกจากนี้ ความเป็นไปได้ที่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้จะเกิดขึ้น ได้เพิ่มแรงกดดันล่าสุดต่อราคาน้ำมันดิบ

(Source : investing.com)