สายลับ 2 คนในจีนใช้ Wasibi Wallet เพื่อปกปิดธุรกรรมที่ใช้สำหรับการติดสินบน

สายลับ 2 คนในจีนใช้ Wasibi Wallet เพื่อปกปิดธุรกรรมที่ใช้สำหรับการติดสินบน เมื่อวันที่ 24 ต.ค. กระทรวงยุติธรรมกล่าวว่า Guochun He และ Zheng Wang พยายามขัดขวางการดำเนินคดีกับบริษัทโทรคมนาคมระดับโลกที่ไม่มีชื่อแต่มีสำนักงานอยู่ในประเทศจีน โดยถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการจ่ายสินบนให้พนักงานรัฐบาลสหรัฐฯ ประมาณ 61,000 ดอลลาร์โดยใช้ Bitcoin

อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 คนเป็นสายลับสองหน้าที่ทำงานในนามของสำนักงานสืบสวนกลางแห่งสหรัฐอเมริกา (Federal Bureau of Investigation) และไม่ได้ต่อต้านเจ้าหน้าที่เขตตะวันออกในนิวยอร์กในคดีของการฟ้องร้องบริษัทในจีน

จากการวิเคราะห์โดย Elliptic บริษัทจัดการความเสี่ยงของคริปโตเคอเรนซี He และ Wang ถูกกล่าวหาว่า ใช้ Wasabi Wallet เพื่อปกปิดธุรกรรม BTC เพื่อติดสินบน บริษัทรายงานว่ากระเป๋า privacy wallet เคยถูกใช้เพื่อพยายามฟอก BTC จากการแฮ็ก Twitter ในเดือนกรกฎาคม 2020 และการโจมตีเว็บเทรดคริปโต Bitfinex ในปี 2016 และ KuCoin ในปี 2020

“สินทรัพย์ดิจิทัลมีคุณสมบัติเหมือนกันที่น่าสนใจต่ออาชญากร เช่น การต่อต้านการเซ็นเซอร์ นามแฝง และความสะดวกในการโอนย้ายข้ามพรมแดน เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับหน่วยงานข่าวกรองทุกแห่งที่ต้องการให้ทุนในการปฏิบัติการลับ” Elliptic กล่าว

ตามรายงานของกระทรวงยุติธรรม เจ้าหน้าที่ข่าวกรองของจีนสองคนเริ่มเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 2019 โดยสั่งให้เจ้าหน้าที่สองคนขโมยข้อมูลการดำเนินคดีของบริษัทที่เป็นความลับ ซึ่ง Elliptic คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับ Huawei

ชาวจีนถูกกล่าวหาว่าติดสินบน $41,000 และ 20,000 ดอลลาร์โดยให้เหรียญ BTC กับกับตัวแทนที่จัดหาข้อมูลลับให้และให้รางวัลแก่การเปิดเผยข้อมูลตามลำดับ

หลังจากการจัดตั้งทีมบังคับใช้ Cryptocurrency แห่งชาติของกระทรวงยุติธรรมในเดือนตุลาคม 2021 รัฐบาลได้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายกับบุคคลและหน่วยงานที่ใช้ crypto สำหรับการกระทำที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการฟอกเงินและเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ในปี 2022

กระทรวงยุติธรรมได้ยึดเงิน fiat และเหรียญคริปโตประมาณ 500,000 ดอลลาร์จากกลุ่มแฮ็คเกอร์ที่เชื่อมโยงกับรัฐบาลเกาหลีเหนือ และได้ดำเนินการตามขั้นตอนในการดำเนินคดีอาญาต่อพลเมืองสหรัฐฯ ที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดการคว่ำบาตรผ่านคริปโตโดยล่าสุดที่มีชาวเวเนซุเอลา 2 คนและชาวรัสเซีย 5 คนถูกกล่าวหาว่าใช้คริปโตเพื่อเลี่ยงการคว่ำบาตร

และล่าสุดเกาหลีเหนือหน่วยงานกำกับดูแลของเกาหลีออกกฎหมายใหม่กับคริปโตโดยมีแนวคิดว่า cryptocurrencies และ stablecoin สามารถอำนวยความสะดวกในการฟอกเงินได้

(Source : cointelegraph.com)