หุ้นเอเชียทรงตัว หลัง FED เตือนพันธบัตรผันผวน (18/11/22)
ในช่วงนี้นักลงทุนได้มีการสงวนท่าทีในการลงทุน ทำให้หุ้นเอเชียทรงตัวในวันนี้ หลังจาก FED ออกมาเตือนเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่สถานการณ์ Covid 19 ในจีนทำให้สภาพคล่องในตลาดตราสารหนี้ที่ตึงตัวเพิ่มความไม่แน่นอน
ทั้งเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวสูงขึ้นในชั่วข้ามคืน เมื่อนายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยอาจต้องแตะระดับตั้งแต่ 5% ถึง 7% เพื่อให้ “จำกัดเพียงพอ” เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ
โดย S&P 500 Futures ทรงตัวในวันศุกร์ ในขณะที่ Nasdaq Futures ขยับขึ้น 0.1%
เเละทางด้าน EUROSTOXX 50 Futures เพิ่มขึ้น 0.7% และ FTSE Futures เพิ่มขึ้น 0.3%
นอกจากนั้น MSCI ของญี่ปุ่น ยังเพิ่มขึ้น 0.6% หลังจากร่วงลงมา 2 Session
ด้วยความกังวลจากการเเพร่ระบาดของ Covid 19 เเละ นโยบาย Zero Covid ทำให้ หุ้นกลุ่ม Bluechip ของจีนลดลง 0.1%
เเละ Nikkei ของญี่ปุ่นก็ขยับขึ้น 0.1% เนื่องจากข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงสุดในรอบ 40 ปี เนื่องจากค่าเงินเยนที่อ่อนค่าทำให้ต้นทุนการนำเข้าสูงขึ้น
การคาดการณ์ที่น่ากลัวว่าเศรษฐกิจได้เข้าสู่ภาวะถดถอยแล้ว โดยเงินสเตอร์ลิงอยู่ที่ 1.1916 ดอลลาร์ จากระดับสูงสุดประจำสัปดาห์ที่ 1.2026 ดอลลาร์
หลังจากดีดตัวขึ้นในชั่วข้ามคืน เงินดอลลาร์เองก็เข้าสู่แรงเทขายอีกครั้งและอ่อนค่าลงที่ 106.460 ในตะกร้าสกุลเงิน กลับสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือนที่ 105.30 แตะช่วงต้นสัปดาห์ ดอลลาร์อ่อนค่าลง 139.78 เยน แต่อยู่เหนือระดับต่ำสุดล่าสุดที่ 137.67
เงินยูโรอยู่ที่ 1.0376 ดอลลาร์ อ่อนตัวลงจากจุดสูงสุดในรอบ 4 เดือนที่ 1.0481 ดอลลาร์เมื่อวันอังคาร เนื่องจากผู้กำหนดนโยบายบางคนโต้แย้งว่าควรระมัดระวังในการเข้มงวด