BREAKING ราคาน้ำมันกลับตัวร่วง-4%
ราคาน้ำมันดิบ WTI และ Brent ร่วง -4% อย่างรวดเร็ว จนกลับมาเหลือเพียง 83 และ 89 เหรียญต่อบาร์เรลตามลำดับ หรือกำลังทำสถิติ “ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีนี้เลยทีเดียว!”
📌 หลายท่านอาจจะสงสัยว่าเหตุการณ์อะไรที่จะทำให้ราคาน้ำมันดิบร่วงเร็วขนาดนี้ ? ทั้งที่เมื่อ 2 วันก่อนทางโอเปกเพิ่งประกาศลดกำลังการผลิตไปเอง? และการตัดก๊าซของรัสเซียก็ยังเพิ่มความกดดันต่อตลาดพลังงานทั่วโลกอยู่?
2 สาเหตุหลักที่กำลังกดให้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงน่าจะมาจาก
1.ความกังวลเรื่องภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก (Recession)
หากตามข่าวในตลาดน้ำมันก็อาจจะเหตุผลนี้เป็นหลัก ว่านักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักของการเกิด Recession ทั่วโลกมากขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะทำให้การใช้น้ำมันหดตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมและการเดินทาง
และหากดูจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี หรือ Bond Yield ที่ได้ปรับตัวร่วงลงอย่างรวดเร็ว (-2%) ก็ทำให้เราได้รู้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักของ Recession มากขึ้นจริงๆ (ถึงได้มองว่าดอกบี้ยระยะยาวจะลดลงหลัง FED ต้องปรับดอกเบี้ยลงในอนาคต)
2.ราคาน้ำมันดิบได้เกิด (Technical Pattern – Death Cross)
ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชี้ว่าราคากำลังเปลี่ยนแนวโน้มจากขาลงระยะสั้น กลายเป็นขาลงระยะยาวแทน
ราคาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) ของราคาน้ำมันดิบ WTI เส้น 50 วัน ได้ตัดลงสวนกับเส้น 200 วันพอดี จนทำให้เกิดสัญญาณ Death Cross หรือสัญญาณเตือนนักลงทุนว่าราคาอาจกลายเป็นขาลงระยะยาว
สัญญาณนี้ประกอบกับการกังวงเรื่อง Recession ได้ทำให้นักลงทุนแห่เทขายราคาน้ำมันอย่างรวดเร็ว จนทำให้เราเห็นราคาแตะจุดที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 เดือนล่าสุดทันที