ECB ขึ้นอัตราดอกเบี้ย +0.50% และยังจำเป็นต้องขึ้นต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ธนาคารกลางยุโรปเลือกที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลงในการประชุมเมื่อวันพฤหัสบดี โดยรับอัตราดอกเบี้ยหลักจาก 1.5% เป็น 2% แต่กล่าวว่าจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย ”อย่างมีนัยสำคัญ” ต่อไปเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ

นอกจากนี้ยังกล่าวด้วยว่าตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2566 จะเริ่มลดงบดุลโดยเฉลี่ย 15 พันล้านยูโร (15.9 พันล้านดอลลาร์) ต่อเดือนจนถึงสิ้นไตรมาสที่สองของปี 2566 กล่าวว่าจะประกาศรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดการถือครองสินทรัพย์ (APP) ในเดือนกุมภาพันธ์ และจะประเมินอัตราการลดลงอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าสอดคล้องกับกลยุทธ์นโยบายการเงิน

″สภาปกครองตัดสินว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงต้องเพิ่มขึ้นอย่างมากในอัตราที่คงที่เพื่อให้ถึงระดับที่มีข้อจำกัดเพียงพอเพื่อให้แน่ใจว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับสู่เป้าหมายระยะกลาง 2% ในเวลาที่เหมาะสม” ECB ระบุในแถลงการณ์

• ในการแถลงข่าวหลังการประกาศ ประธาน ECB Christine Lagardeกล่าวว่า: ”ใครก็ตามที่คิดว่านี่คือจุดเปลี่ยนสำหรับ ECB คิดผิดแล้ว เราไม่ได้เปลี่ยนทิศทาง เราไม่หวั่นไหว เรากำลังแสดงความมุ่งมั่นและความยืดหยุ่นในการเดินทางต่อไป ที่ที่เรามี … ถ้าเทียบกับเฟด เรามีอะไรให้เคลียร์มากกว่า เรายังต้องทำอีกยาวไกล”

• ธนาคารกลางกล่าวว่ากำลังดำเนินการเกี่ยวกับการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อของยูโรโซน ขณะนี้คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยจะอยู่ที่ 8.4% ในปี 2565, 6.3% ในปี 2566, 3.4% ในปี 2567 และ 2.3% ในปี 2568

การตัดสินใจลดเงิน APP โดยเฉลี่ย 1.5 หมื่นล้านยูโรในช่วงสี่เดือนคิดเป็นประมาณครึ่งหนึ่งของการไถ่ถอนในช่วงเวลาดังกล่าว และอิงตามคำแนะนำจากทีมการตลาดและธนาคารกลางทั้งหมดและเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการตัดสินใจ Lagarde กล่าวว่า.

“ดูเหมือนเป็นตัวเลขที่เหมาะสมในการทำให้งบดุลของเรากลับมาเป็นปกติ โดยคำนึงว่าเครื่องมือสำคัญคืออัตราดอกเบี้ย” เธอกล่าวเสริม

ECB จะประสบความสำเร็จในการลดลงโดยไม่นำการชำระเงินต้นทั้งหมดจากหลักทรัพย์ที่ครบกำหนดชำระคืนในพอร์ตพันธบัตรมูลค่า 5 ล้านล้านยูโร

เงินยูโรแข็งค่าขึ้นจากที่ขาดทุน 0.5% เมื่อเทียบกับดอลลาร์เป็นเพิ่มขึ้น 0.4% หลังจากการประกาศดังกล่าว แต่หุ้นยุโรปในดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 2.4%

“Lagarde ชี้นำตลาดอย่างชัดเจนให้คาดการณ์การปรับขึ้น Basis Point อีก 50 จุดในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม และผลักดันกลับไปสู่แนวคิดที่ว่าจะสามารถลดอัตราดอกเบี้ยได้ทุกเมื่อในเร็วๆ นี้”

(ที่มา : สำนักข่าว cnbc)