USD ดีดตัวขึ้น หลังดอลลาร์กลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในปี 2023

USD ดีดตัวขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ 6 สกุล โดยภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นของภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐอเมริกาและที่อื่น ๆ ทำให้มันมั่นคงในปี 2023 ผ่านกระแสที่ปลอดภัย ตามการสำรวจของนักยุทธศาสตร์ตลาดโดยรอยเตอร์

ในขณะที่คนส่วนใหญ่กล่าวว่ามีขอบเขตด้านบนมีไม่มากนักสำหรับเงินดอลลาร์ เนื่องจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอเริ่มฟื้นตัวเเละเเรงกดดันของเงินเฟ้อเริ่มจะกลับมาอีกครั้ง นั่นหมายความว่านักลงทุนอาจเข้าถึงสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงก่อนเวลาอันควร

โดยดัชนีดอลลาร์ลดลงมากกว่า 5% ในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งนับว่าเป็นสถิติที่เเย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2010 โดยส่วนใหญ่มาจากการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐกำลังจะชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและการหยุดชั่วคราวในท้ายที่สุดใกล้เข้ามาแล้ว

จากผลสำรวจความคิดเห็นของรอยเตอร์เมื่อวันที่ 1-6 ธ.ค. จากนักยุทธศาสตร์การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ 66 คน ระบุว่า ดอลลาร์จะซื้อขายที่ระดับปัจจุบันในหนึ่งปีนับจากนี้ และคงไว้ซึ่งกำไรเกือบ 10% ในปีนี้ แม้ว่าจะประสบความล้มเหลวครั้งล่าสุดก็ตาม

นักยุทธศาสตร์เกือบสองในสามหรือ 33 คนจาก 51 คนที่ตอบคำถามเพิ่มเติมกล่าวว่าความเสี่ยงของเงินดอลลาร์ที่มากขึ้นในเดือนหน้าคือการดีดตัวขึ้นแทนที่จะร่วงลงอีก

Jane Foley หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ FX กล่าวว่า “ตอนนี้สินทรัพย์ได้รับการปรับราคาใหม่แล้ว นักลงทุนอาจอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ดีในการเผชิญกับช่วงเวลาที่อาจมีลักษณะเด่นจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้นในยุโรปและในสหรัฐฯ ในปีหน้า” ที่รับโบแบงก์

“เราคาดการณ์ว่าระดับความผันผวนจะยังคงอยู่ในระดับสูงในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า และคาดว่ายังเร็วเกินไปที่ตลาดขาขึ้นของ USD จะชะลอตัวอย่างเต็มที่”

แม้ว่าประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ค่อนข้างดีขึ้นและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นช่วยให้เงินดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ

ซึ่งมีการคาดการณ์ว่า ธนาคารรายใหญ่ๆในสหรัฐฯ นั้นจะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนเเรงในช่วงต้นปีหน้า เเละแม้ว่าเงินดอลลาร์จะอ่อนค่าลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่คาดว่าสกุลเงินหลัก ๆ จะไม่สามารถชดเชยการขาดทุนในปี 2023 จนกว่าจะถึงช่วงปลายปี

โดยเงินยูโร (EUR/USD) เพิ่มขึ้น 10% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ นับตั้งแต่ทำสถิติต่ำสุดในเดือนกันยายน แต่ยังคงลดลงเกือบ 8% ในปีนี้ เเละคาดว่าจะอ่อนค่าประมาณ 3% ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อซื้อขายที่ 1.02 ดอลลาร์ คาดว่าจะไต่ระดับสูงขึ้นเพื่อซื้อขายที่ประมาณ $1.07 ในหนึ่งปี

เงินเยนของญี่ปุ่น (JPY) ลดลงเกือบ 20% ในปีนี้ และปัจจุบันซื้อขายกันที่ประมาณ 136.50 ต่อดอลลาร์ คาดว่าจะเปลี่ยนมือที่ประมาณ 139.17, 136.17 และ 132.67 ต่อดอลลาร์ในช่วง 3, 6 และ 12 เดือนข้างหน้าตามลำดับ

เเละสเตอร์ลิงเพิ่มขึ้นมากกว่า 17% จากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.0382 ดอลลาร์ในเดือนกันยายนท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมือง คาดการณ์ว่าจะขาดทุนเกือบ 5% เพื่อซื้อขายที่ประมาณ 1.16/ดอลลาร์ในสามเดือน

นอกจากนั้นการสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ส่วนใหญ่จะร่วงลงในอีก 6 เดือนข้างหน้า แม้ว่าทางการจีนจะผ่อนคลายนโยบายปลอดโควิดบางข้อ ซึ่งกระตุ้นความคาดหวังว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจจะดีดตัวขึ้น

ทำให้เงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นราว 5% นับตั้งแต่แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนพฤศจิกายน โดยซื้อขายต่ำกว่า 7 ต่อดอลลาร์ คาดว่าจะยังคงอยู่เหนือระดับดังกล่าวในอีก 6 เดือนข้างหน้า

เเละค่าเงินดอลลาร์วันนี้ อยู่ที่ 35.03 บาท ต่อดอลลาร์