USD อ่อนค่าต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังสัญญาณเศรษฐกิจไม่ค่อยดี

เงินดอลลาร์หรือ USD อ่อนค่าลงสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังจากสหรัฐฯ ส่งสัญญาณไม่ดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจในประเทศ

นอกจากนั้นค่าเงินปอนด์หรือ GBP ไปแตะรับดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์ หลังประกาศการรับตำแหน่งของนายกคนใหม่อย่าง Rishi Sunak ที่เป็นนายกฮินดูคนเเรกของประเทศ ซึ่งให้คำมั่นที่จะนำประเทศออกจากวิกฤตเศรษฐกิจ

ทางด้าน EUR ยังคงอยู่ในช่วงระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์เช่นกัน โดยมีการเปิดตลาดที่ 0.9954 เเละ ธนาคารกลางยุโรปตัดสินใจนโยบายในวันพฤหัสบดีและคาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดย 75 คะแนนพื้นฐาน

ซึ่งดัชนีค่าเงินดอลลาร์ วัดค่าเงินเทียบกับ 6 สกุลหลัก ซึ่งรวมถึงสเตอร์ลิง ยูโร และเยน เปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่ 111.01 ใกล้ระดับต่ำสุดของช่วงก่อนหน้าที่ 110.75 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค.

โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐระยะยาวยังคงลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายปีของสัปดาห์ที่แล้วที่ 4.338% ลดลงมาอยู่ที่ 4.0833%

ทำให้ดอลลาร์มีแรงกดดันเป็นพิเศษต่อค่าเงินเยน เนื่องจากมีความอ่อนไหวต่ออัตราของสหรัฐฯ โดยทั้งคู่ทรงตัวที่ 147.99 ตามการลดลง 0.7% จากวันอังคาร

ค่าเงินดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 32 ปีที่ 151.94 เยนในวันศุกร์ แต่หลังจากนั้นก็ถูกตีกลับมาที่ 144.55 ท่ามกลางการต้องสงสัยสองครั้งที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นเข้าแทรกแซงด้านใดด้านหนึ่งของสุดสัปดาห์

ถึงกระนั้น ปัจจัยพื้นฐานยังคงสนับสนุนค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลง โดยที่ BOJ คาดว่าในวันศุกร์นี้ จะคงการตั้งค่าการกระตุ้นเศรษฐกิจไม่เปลี่ยนแปลง โดยสวนทางกับภาวะการเงินที่ตึงตัวโดยกลุ่มตลาดที่พัฒนาแล้ว

สเตอร์ลิงคลายตัว 0.21% มาที่ 1.1448 ดอลลาร์ แต่ยังคงใกล้ระดับสูงสุดในวันอังคารที่ 1.1500 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับล่าสุดเมื่อวันที่ 15 กันยายน

เงินยูโรอ่อนค่าลง 0.14% สู่ 0.99545 ​​ดอลลาร์ หลังจากพุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ต.ค. ในวันอังคารที่ 0.9995 ดอลลาร์

เงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.13% ที่ 0.6386 ดอลลาร์ แม้จะพุ่งแตะระดับสูงสุดที่ 0.6412 ดอลลาร์ในช่วงสั้นๆ หลังจากข้อมูลเงินเฟ้อของผู้บริโภครายไตรมาสอยู่เหนือประมาณการของนักเศรษฐศาสตร์ ทำให้เกิดแรงกดดันต่อธนาคารกลางก่อนการประชุมนโยบายในวันอังคารนี้