ค่าเงินยูโรอ่อนค่าในรอบ 2 ทศวรรษ!!
เงินยูโรอ่อนค่าลงในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากอุปทานพลังงานและความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ในขณะที่ค่าเงิน US แข็งค่าในวันอังคารนี้
จากอุปทานพลังงานที่ขาดช่วงไป ทำให้ค่าเงินยูโรแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2545 ที่ 0.9926 ดอลลาร์ในชั่วข้ามคืนและล่าสุดแทบไม่มีการปรับขึ้นที่ 0.9939 ดอลลาร์
โดยสาเหตุมาจากประเทศ รัสเซีย ที่จะหยุดส่งก๊าซธรรมชาติ ไปยังยุโรปผ่านท่อ Nord Stream เป็นเวลาสามวันในสิ้นเดือนนี้ ซึ่งเป็นสัญญาณที่แสดงถึงวิกฤตการจัดหาพลังงานของทวีป
คลื่นความร้อนในทวีปได้ทำให้เกิดความตึงเครียดในการจัดหาพลังงาน และความกังวลก็เพิ่มมากขึ้นว่าการหยุดชะงักในช่วงฤดูหนาว ซึ่งอาจสร้างความเสียหายให้กับภาคธุรกิจเป็นอย่างมาก
เงินปอนด์ถูกลากไปที่ระดับต่ำสุดในรอบ 2.5 ปีใหม่ในชั่วข้ามคืน และขยับเข้าใกล้ที่ระดับ 1.1758 ดอลลาร์
ในช่วงเช้าวันนี้ค่าเงินเยนญี่ปุ่นทรงตัวที่ 137.30 ต่อดอลลาร์หลังจากแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือนที่ 137.70
ทางดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ค่อนข้างทรงตัว ซึ่ง Attrill ของ NAB ระบุว่าตลาดได้รับความสนใจจากจุดอ่อนของแนวโน้มของยุโรป
โดยที่นักลงทุนให้ความสนใจกับข่าวรายงานการประชุมนโยบายครั้งสุดท้ายของธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งมีเเนวโน้มว่าจะมีผลออกมาที่ไม่ดีเท่าไรนัก เนื่องจาก ทวีปยุโรปกำลังเผชิญวิกฤตในหลายๆด้าน
AUD/USD เพิ่มขึ้น 0.15% เป็น 0.6689 ดอลลาร์ในขณะที่ NZD/USD เพิ่มขึ้น 0.18% เป็น 0.6183 ดอลลาร์
ในฝั่งเอเชีย ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น 6.8711 จุด เทียบกับ USD/CNH ใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 ปีที่ 6.8752 เมื่อวันจันทร์
เทียบกับตะกร้าสกุลเงินซึ่งเงินยูโรมีน้ำหนักมากที่สุดดัชนีดอลลาร์สหรัฐยืนนิ่งที่ 108.9 พยายามทะลุระดับสูงสุดในรอบสองทศวรรษที่ 109.29 ในเดือนกรกฎาคม
Source : Investing