ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบหลังความเชื่อมั่นของนักลงทุนลดลง 23/08/22

ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดลบในวันจันทร์ หลังจากนักลงทุนส่วนมากกังวลเกี่ยวกับการประชุม Jackson hole ซึ่งคาดว่าเฟดจะใช้นโยบายในการขจัดเงินเฟ้อที่รัดกุม

ดัชนี S&P 500 ทั้ง 11 รายการ ลดลง นำโดยการตัดสินใจของผู้บริโภคที่ลดลง 2.84% ตามด้วยการสูญเสีย 2.78% ในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ

Nvidia (NASDAQ: NVDA ) Corp ลดลง 4.6% และ Amazon.com Inc (NASDAQ: AMZN ) ลดลง 3.6% ในขณะที่ Microsoft Corp (NASDAQ: MSFT ) และ Apple Inc (NASDAQ: AAPL ) ต่างดิ่งลงมากกว่า 2% จากเกณฑ์

หลังจากการชุมนุมช่วงฤดูร้อนที่ Wall Street สิ้นสุดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว S&P 500 ยังคงลดลงประมาณ 13% จนถึงปี 2022 และ Nasdaq ลดลงมากกว่า 20%

ดัชนีความผันผวนของ CBOE ซึ่งเป็นมาตรวัดความกลัวของวอลล์สตรีท เพิ่มขึ้นเป็น 23.9 ซึ่งสูงที่สุดในรอบสองสัปดาห์

ซึ่งนักลงทุนเเละผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนมากให้ความสนใจเกี่ยวกับคำปราศรัยของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ ในวันศุกร์ที่การประชุมธนาคารกลางใน Jackson Hole สำหรับตัวชี้นำเพิ่มเติมว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอย่างไร

“พาวเวลล์จะพยายามพูดอย่างตรงไปตรงมาเพื่อลดความคาดหวังเรื่องเงินเฟ้อและกระชับเงื่อนไขทางการเงิน ดังนั้นนั่นจึงน่าจะเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงลบสำหรับตลาด” 

เจย์ แฮตฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Infrastructure Capital Management ในนิวยอร์กกล่าว

โดยที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนมากคาดว่าเฟดอาจจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 50 จุดในเดือนกันยายน

เเละ นักลงทุนจะมองหารายละเอียดเกี่ยวกับแผนการของเฟดที่จะลดงบดุลเกือบ 9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นกระบวนการที่เริ่มในเดือนมิถุนายน

S&P 500 ลดลง 2.14% อยู่ที่ 4,137.99 จุด

ทาง Nasdaq ก็มีการปรับตัวลดลง 2.55% มาอยู่ที่ 12,381.57 จุด ในขณะที่ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ลดลง 1.91% มาอยู่ที่ 33,063.61 จุด

ความกลัวการชะลอตัวกระทบตลาดทั่วโลก โดยธนาคารจีนมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลดลงในบางส่วน เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่กำลังชะลอตัวอยู่

หุ้นที่ลดลงมีจำนวนมากกว่าหุ้นที่เพิ่มขึ้นภายใน S&P 500 ด้วยอัตราส่วน 19.9 ต่อหนึ่ง

S&P 500 โพสต์จุดสูงสุดใหม่และ 32 จุดต่ำสุดใหม่ Nasdaq ทำสถิติสูงสุดใหม่ 30 ครั้งและระดับต่ำสุดใหม่ 171 ครั้ง

ปริมาณการแลกเปลี่ยนในสหรัฐฯ ค่อนข้างเบา โดยมีการซื้อขายหุ้น 9.9 พันล้านหุ้น เทียบกับค่าเฉลี่ย 10.8 พันล้านหุ้นในช่วง 20 ช่วงก่อนหน้า

Source : Investing