อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นแตะระดับ 4.2% ในเดือนมกราคม
ราคาผู้บริโภคของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 4.2% ในเดือนมกราคมจากปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับที่ไม่เคยเห็นมาตั้งแต่เดือนกันยายน 2524 โดยส่วนหนึ่งมาจากค่าพลังงานที่สูงขึ้น ข้อมูลของรัฐบาลเปิดเผยเมื่อวันศุกร์ จากรายงานปรากฏในรัฐสภาโดย Kazuo Ueda หัวหน้าผู้ท้าชิง Bank of Japan ได้ขึ้นกล่าวแถลงการณ์ในเวลาต่อมา
การเพิ่มขึ้นร้อยละ 4.2 ซึ่งไม่รวมอาหารสดที่ยังคงผันผวน อยู่ต่ำกว่าระดับที่ยังคงสูงเสียดฟ้าซึ่งจุดประกายความกังวลในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ และที่อื่นๆ แต่สูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อระยะยาวของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นที่ร้อยละ 2
ตลาดคาดการณ์ว่าราคาในเดือนมกราคมจะเพิ่มขึ้น 4.3% จากข้อมูลล่าสุดหลังจากเพิ่มขึ้น 4.0 เปอร์เซ็นต์ในเดือนธันวาคมซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2524 เมื่อไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงาน ตัวเลขในเดือนมกราคมจะอยู่ที่ 3.2 เปอร์เซ็นต์
— ข้อมูลรัฐบาลเผย การเพิ่มขึ้นของค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซ รวมถึงค่าโทรคมนาคมและการปรับขึ้นราคาของอาหารแปรรูปหลายชนิดส่งผลให้เดือน ม.ค.อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่ามาตรการของรัฐบาลในการจัดการกับต้นทุนเชื้อเพลิงจะช่วยควบคุมอัตตราเงินเฟ้อในเดือนกุมภาพันธ์
การขึ้นราคาในปัจจุบันเชื่อมโยงกับการบิดเบือนชั่วคราว เช่น สงครามในยูเครน และธนาคารควรคงไว้จนกว่าจะเห็นการขึ้นอย่างต่อเนื่องที่เชื่อมโยงกับปัจจัยต่างๆ เช่น การขึ้นค่าจ้าง
ฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการรัฐบาลนอกราชการระบุ
ความแตกต่างอย่างต่อเนื่องระหว่างธนาคารกลางญี่ปุ่นและธนาคารกลางสหรัฐ ซึ่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวในปีที่แล้ว ได้ช่วยให้เงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งจากรายงานข่าวการตัดสินใจของรัฐบาลในการเสนอชื่ออาจารย์เศรษฐศาสตร์ Ueda เป็นหัวหน้าธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นส่งผลให้เงินเยนแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในช่วงเวลาสั้นๆ
— แต่ค่าเงินของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงหลังจากที่ตลาดเข้าใจข่าวดังกล่าว และ Ueda ได้บอกกับนักข่าวว่า “นโยบายของ BoJ ในปัจจุบันนั้นเหมาะสมแล้ว” และ “สิ่งสำคัญคือต้องคงนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเอาไว้ในตอนนี้”
(ที่มา : สำนักข่าว Brecorder)