คำแถลงเฟดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะชะลอลง และอาจเริ่มในเดือน ธ.ค.

ประธานธนาคารกลางสหรัฐ Jerome Powell ยืนยันเมื่อวันพุธว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่น้อยลงนั้นมีแนวโน้มที่จะดำเนินต่อไป แม้ว่าเขาจะมองว่าความคืบหน้าในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เพียงพอ

สะท้อนถ้อยแถลงล่าสุดจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางคนอื่นๆ และความเห็นในการประชุมเฟดเดือนพฤศจิกายน นายพาวเวลล์กล่าวว่าเขาเห็นว่าธนาคารกลางอยู่ในฐานะที่จะลดขนาดการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดในเดือนหน้า

แต่เขาเตือนว่านโยบายการเงินมีแนวโน้มที่จะเข้มงวดต่อไปอีกระยะหนึ่งจนกว่าจะมีสัญญาณของความคืบหน้าที่แท้จริงเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อ “แม้จะมีการพัฒนาที่มีแนวโน้มอยู่บ้าง แต่เรายังมีหนทางอีกยาวไกลในการฟื้นฟูเสถียรภาพด้านราคา”

พาวเวลล์กล่าวในคำปราศรัยที่สถาบันบรูกกิงส์ (Brookings Institution)

“ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่จะชะลออัตราการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของเราเมื่อเราเข้าใกล้ระดับที่จะเพียงพอทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง” และเวลาสำหรับการปรับลดของอัตราดอกเบี้ยอาจมาในเร็วๆ นี้ในการประชุมครั้งหน้าเดือนธันวาคม

ตลาดคาดการณ์ไว้แล้วว่ามีโอกาส 65% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเหลือ 0.50% ในเดือนธันวาคม หลังจากที่เคยปรับ 0.75% ติดต่อกัน 4 ครั้ง ตามข้อมูลของ CME Group ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 1980

สิ่งที่ต้องติดตามกันต่อไป

คำปราศรัยของพาวเวลล์ โดยกำหนดอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไว้ที่ 5% ภายในเดือนพฤษภาคม 2566 และมองว่าเฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงครึ่งหนึ่งภายในสิ้นปีนี้

การกำหนดราคาในความน่าจะเป็นของการลดอัตราดอกเบี้ยสวนทางกับคำเตือนของ Powell ว่านโยบายที่เข้มงวดจะคงอยู่จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะแสดงสัญญาณการลดลงที่สอดคล้องกันมากขึ้น

“จากความคืบหน้าของเราในการเข้มงวดนโยบาย ระยะเวลาของการกลั่นกรองนั้นมีความสำคัญน้อยกว่าคำถามที่ว่าเราจะต้องเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกเท่าใดเพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อ และระยะเวลาที่จำเป็นในการถือนโยบายในระดับที่จำกัด ”

พาวเวลล์กล่าว

• คำพูดของ Powell มาพร้อมกับสัญญาณชะลอว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังลดลงและตลาดแรงงานที่ตึงตัวเป็นพิเศษกำลังผ่อนคลายลง

• เมื่อต้นเดือนนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคระบุว่าอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นแต่น้อยกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ รายงานในวันพุธแสดงให้เห็นว่าการเติบโตของค่าจ้างภาคเอกชนต่ำกว่าที่คาดไว้ในเดือนพฤศจิกายน ในขณะที่การจ้างงานก็ลดลงเช่นกัน

• นักเศรษฐศาสตร์ของเฟดคาดว่าดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลหลักที่ต้องการของธนาคารกลางในเดือนตุลาคมที่จะออกในวันพฤหัสบดีจะแสดงอัตราเงินเฟ้อที่อัตรา 5% ต่อปี ซึ่งจะลดลงจาก 5.1% ในเดือนกันยายน แต่ยังดีกว่าเป้าหมายระยะยาวของเฟดที่ 2%

(ที่มา : สำนักข่าวCNBC)