ชาวอังกฤษหลายล้านต้องเผชิญกับค่าครองชีพที่ตกต่ำ

สหราชอาณาจักรกำลังเผชิญกับวิกฤตค่าครองชีพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคปัจจุบัน โดยจำนวนประชาชนที่ยากจนกำลังเพิ่มจำนวนสูงขึ้นเรื่อยๆ ตามรายงานของ New Economics Foundation (NEF)

ประชากร 30 ล้านคนในอังกฤษจะไม่สามารถซื้อสิ่งที่ประชาชนมองว่าเป็นมาตรฐานการครองชีพที่เหมาะสมได้ก่อนที่รัฐสภาชุดปัจจุบันจะสิ้นสุดลงในปี 2567 ราคาที่สูงขึ้น รายได้ที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าเงินเฟ้อ และการว่างงานที่เพิ่มขึ้นที่คาดการณ์ไว้จะส่งผลให้ 43% ของครัวเรือนขาดทรัพยากรอาหาร

ช่วงระยะเวลาห้าเดือนระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม มีวันทำงานหายไปกว่า 1.1 ล้านวัน ซึ่งมากที่สุดในสหราชอาณาจักรนับตั้งแต่ปี 2533 ตัวเลขดังกล่าวคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากการนัดหยุดงานยังคงดำเนินต่อไปทั่วอังกฤษในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา กับทางรถไฟอีก 40,000 แห่ง คนงานเริ่มหยุดงานรอบล่าสุดเมื่อวันอังคาร

เจเรมี ฮันต์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของสหราชอาณาจักรปกป้องนโยบายของรัฐบาลในการระงับการขึ้นค่าจ้างสำหรับภาครัฐหลายครั้ง โดยยืนยันว่าการทำเช่นนั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรับมือกับอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น ซึ่งสูงถึง 11.1% ในเดือนตุลาคม 

รายได้จริงในอังกฤษก็เกิดวิกฤตดิ่งเหว

สหราชอาณาจักรยังต้องเผชิญกับค่าจ้างที่แท้จริงลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ.2520 และเลวร้ายที่สุดเป็นประวัติการณ์เป็นอันดับสองนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองในปี พ.ศ.2488 ค่าจ้างที่แท้จริงหมายถึงจำนวนเงินที่ผู้คนได้รับเมื่อเทียบกับค่าครองชีพ.

ขณะที่คนงานจำนวนมากทั่วสหราชอาณาจักร รวมถึงพนักงานไปรษณีย์ คนขับรถไฟและรถบัส ตลอดจนพนักงานและครูของ NHS ได้เริ่มต้นหรือกำลังจะนัดหยุดงานเพื่อขอขึ้นค่าแรงเพิ่มเติม

(ที่มา : สำนักข่าวRTnew)