น้ำมัน WTI ร่วงหนักเป็นสัปดาห์ที่ 3 จากความกังวลเศรษฐกิจจะถดถอย

น้ำมัน WTI ร่วงหนักเป็นสัปดาห์ที่ 3 จากความกังวลเศรษฐกิจจะถดถอย

น้ำมัน WTI ร่วงหนักเป็นสัปดาห์ที่ 3 จากความกังวลเศรษฐกิจจะถดถอย แม้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันนี้ แต่ที่ผ่านมายังคงร่วงลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 3 แล้ว เนื่องด้วยความกลัวว่าการล็อกดาวน์ของโควิดในจีนและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นจะทำลายอุปสงค์น้ำมันดิบในปีนี้

เป็นไปได้ที่รถไฟสหรัฐจะนัดหยุดงาน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันดิบในท้องถิ่น ส่งผลให้ราคาในสัปดาห์นี้ลดลงเช่นกัน

น้ำมันเบรนท์ที่ซื้อขายในลอนดอนเพิ่มขึ้น 0.2% ที่ 91.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ West Texas Intermediate ของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 85.25 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อ 09:45 น. ในวันนี้ และในวันพฤหัสบดีน้ำมันทั้งสองร่วงลงราว 4% และคาดว่าจะลดลงต่อเนื่องเกือบ 2% ใน 2-3 สัปดาห์นี้

ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดค้าปลีกของจีนค่าเป็นบวกได้สนับสนุนราคาเพียงเล็กน้อย เนื่องจากตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจอื่นๆส่วนใหญ่แสดงความอ่อนแออย่างต่อเนื่องในผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก

ความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลกเพิ่มขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังจากที่ทั้งธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศเตือนถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นในช่วงปลายปี 2022

ข้อมูลในวันพฤหัสบดียังแสดงให้เห็นการหดตัวของผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐในเดือนสิงหาคม ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบแย่ลง

U.S. Energy Secretary – Jennifer Granholm พบกับผู้ว่าการรัฐหกรัฐในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับความกังวลของพวกเขาเกี่ยวกับต้นทุนเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงขึ้นในฤดูหนาว กระทรวงพลังงานกล่าว

ราคาน้ำมันดิ่งลงจากระดับสูงสุดในปีนี้ เนื่องจากความกังวลว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอจะกัดเซาะอุปสงค์ในปีนี้ การแจกจ่ายน้ำมันอย่างต่อเนื่องจาก U.S. Strategic Petroleum Reserve ได้ทำให้อุปทานปรับลดเช่นกัน โดยเฉพาะน้ำมันดิบ WTI

ในตอนนี้ตลาดกำลังปรับตัวสำหรับการจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐในสัปดาห์หน้า โดยมีนักวิเคราะห์จำนวนมากเห็นการขึ้น 75 จุด แต่ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงเกินคาดที่เผยแพร่ในสัปดาห์นี้ ยังพบว่านักลงทุนเริ่มกำหนดราคาด้วยความเป็นไปได้ที่จะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 1.00%

แม้ว่าความต้องการน้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ จะฟื้นตัวในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ตลาดต่างกังวลว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้นจะส่งผลต่อความแข็งแกร่งในการใช้จ่ายของผู้บริโภคในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทำให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบโดยการซื้อน้ำมันแพงขึ้น ผู้นำเข้ารายใหญ่ของเอเชียอินเดียและอินโดนีเซียก็ได้ลดการนำเข้าในปีนี้เช่นกัน

(ที่มา : investing.com)

อ่านข่าวเพิ่มเติม คลิกที่นี่!!

สมัครเปิดบัญชีเทรดกับเรารับ ฟรี SERVER ฟรี VPS และ ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Expert Advisor (EA)