ราคาน้ำมันร่วง หลังดอลลาร์ทะยานขึ้นสูงสุดรอบ 2 ทศวรรษใหม่อีกครั้ง

ราคาน้ำมันร่วง หลังดอลลาร์ทะยานขึ้นสูงสุดรอบ 2 ทศวรรษใหม่อีกครั้ง ราคาน้ำมันร่วงลงมากกว่า 1% ในวันพุธ โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินดอลลาร์และแหล่งกักเก็บน้ำมันดิบซึ่งชดเชยแรงสนับสนุนจากการลดการผลิตของสหรัฐที่เกิดจากพายุเฮอริเคนเอียน

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบเบรนต์ (Brent) ร่วงลง 1.10 ดอลลาร์หรือ 1.3% สู่ 83.77 ดอลลาร์/บาร์เรล
ขณะที่ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ลดลง 1.10 ดอลลาห์หรือ 1.38% ที่ 77.42 ดอลลาร์/บาร์เรล ภายในเวลา 13.30 น. (อ้างอิงข้อมูลจาก : investing.com)
ราคาทองคำในวันนี้ยังคงอยู่ในช่วง Sideway ในช่วง Time frame สั้นๆ หากเราลองกลับมาพิจารณาในช่วง Time frame ใหญ่ๆ จะเห็นได้ว่า กราฟของ XAU/USD นั้นยังอยู่ในขาลงอย่างรุนเเรง

ค่าเงินดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 20 ปีเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินจากผลตอบแทนของกระทรวงการคลังที่เพิ่มขึ้น ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าลดความต้องการใช้น้ำมันโดยทำให้ผู้ซื้อที่ใช้สกุลเงินอื่นมีราคาซื้อที่แพงกว่า

ตลาดหุ้นเอเชียร่วงลงเนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมที่พุ่งสูงขึ้นทำให้เกิดความกลัวว่าเศรษฐกิจจะถดถอยทั่วโลก ทำให้นักลงทุนต้องหวังพึ่งค่าเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย (safe-haven)

“ด้วยตลาดเอเชียที่ฟื้นตัวจากผลตอบแทนพันธบัตรที่พุ่งสูงขึ้น แนวโน้มอุปสงค์จะต่ำลงท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่จะมาถึง”
“เทรดเดอร์ไม่ได้ให้ความสำคัญกับประเด็นอุปทานในขณะนี้ เนื่องจากความวุ่นวายของตลาดตราสารหนี้กำลังเข้าสู่ช่วงสินทรัพย์เสี่ยง (risk asset) ประกอบกับค่าเงินดอลลาร์พุ่งสูงขึ้น ซึ่งกดดันราคาน้ำมันในตอนนี้”
Tina Teng นักวิเคราะห์จาก CMC Markets กล่าว

สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐ (Crude Oil WTI) เพิ่มขึ้นประมาณ 4.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ ณ วันที่ 23 กันยายน ขณะที่สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงประมาณ 1 ล้านบาร์เรล ตามแหล่งข่าวในตลาดเมื่อวันอังคาร (อ้างตัวเลขจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่สถาบัน American Petroleum Institute)

ตามแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อระบุว่าสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นประมาณ 438,000 บาร์เรล โดยรายงานดังกล่าวมีขึ้นก่อนข้อมูลการบริหารข้อมูลพลังงานอย่างเป็นทางการ (Energy Information Administration data) ซึ่งจะครบกำหนดในวันพฤหัสบดี เวลา 03:30 น. ของบ้านเรา

Goldman Sachs ปรับลดการตาดการณ์ราคาของน้ำมันปี 2023 ในวันอังคารนี้ เนื่องจากคาดว่าเป็นผลมาจากความต้องการน้ำมันที่น้อยลงและค่าเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น แต่กล่าวว่าความผิดหวังด้านอุปทานทั่วโลกได้ตอกย้ำแนวโน้มขาขึ้นในระยะยาวเท่านั้น

ผู้ผลิตเริ่มส่งคนงานกลับแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งหลังจากปิดแท่นขุดเจาะก่อนพายุ Hurricane Ian เข้า ซึ่งได้เข้าสู่อ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร และคาดว่าจะกลายเป็นพายุระดับ 4 ที่อันตรายเหนือน่านน้ำอุ่นของอ่าวเปอร์เซีย

(*Source : mysuncoast.com) พายุเฮอริเคนเอียนเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกมุ่งหน้าสู่ซันโคสต์*

สำนักงานควบคุมความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อม (Bureau of Safety and Environmental Enforcement หรือ BSEE) ระบุว่า การผลิตน้ำมันประมาณ 190,000 บาร์เรล/วัน หรือ 11% ของปริมาณการผลิตทั้งหมดของอ่าวกัลฟ์ถูกปิดลง

ผู้ผลิตสูญเสียก๊าซธรรมชาติไป 184 ล้านลูกบาศก์ฟุต หรือเกือบ 9% ของผลผลิตรายวัน บุคลากรถูกอพยพออกจากแท่นผลิตและแท่นขุดเจาะ 14 แท่น BSEE กล่าว

เอียนเป็นพายุเฮอริเคนลูกแรกในปีนี้ที่ทำลายการผลิตน้ำมันและก๊าซในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐฯ ซึ่งผลิตน้ำมันดิบประมาณ 15% ของสหรัฐฯ และ 5% ของก๊าซธรรมชาติแห้ง

อ่านข่าวเพิ่มเติม คลิกที่นี่!!