วิกฤตการธนาคารอาจก่อให้เกิดการล่มสลายทางการเงินทั่วโลก
หัวหน้าธนาคาร ANZ กล่าวว่า มันยังเร็วเกินไปที่จะคาดการณ์ว่าความวุ่นวายทางการเงินจะสิ้นสุดลง Shayne Elliott ซีอีโอของ Australia and New Zealand Banking Group (ANZ) เตือนว่า ภัยคุกคามที่ธนาคารบางแห่งกำลังเผชิญอยู่ในสหรัฐฯ และยุโรปนั้น “มีศักยภาพที่จะก่อให้เกิดวิกฤตการเงินโลก”
รัฐบาลทั่วโลกมีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับผลกระทบดังกล่าว ซึ่งได้สั่นคลอนความเชื่อมั่นของนักลงทุนในอุตสาหกรรมการธนาคารบางกลุ่มไปแล้ว (Elliott) กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะสันนิษฐานว่าสถานการณ์ปัจจุบันอาจส่งผลให้เกิด GFC [วิกฤตการเงินโลก] อีกครั้ง เช่นเดียวกับที่ส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2551
นักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่าภาคการธนาคารของแต่ละประเทศยสามารถต้านทานความผันผวนของโลกได้ เนื่องจากธนาคารหลายประเทศมีเงินทุนเพียงพอและมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ในเวลาเดียวกัน หน่วยงานกำกับดูแลของประเทศได้เพิ่มการควบคุมและตรวจสอบผู้ให้กู้ในประเทศอย่างเข้มงวด หลังจากการล่มสลายของสถาบันหลายแห่งในสหรัฐฯ และการเข้าซื้อกิจการของ Credit Swiss อย่างฉุกเฉิน
ในขณะเดียวกัน ซีอีโอของ ANZ ได้เตือนสถาบันทางการเงินของตะวันตกว่าอย่าคิดเพ้อฝันเกี่ยวกับการฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว โดยกล่าวว่า “มันยังไม่จบลงอย่างชัดเจน”
วิกฤตที่ทับซ้อนกันอาจนำไปสู่การชะลอตัวอย่างรวดเร็วศักยภาพการเติบโตของเศรษฐกิจโลกโดยเฉลี่ยอาจลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ทศวรรษที่ 2.2% ต่อปีจนถึงปี 2573 ตามรายงานปัจจัยทั้งหมดเหล่านี้มีน้ำหนักต่อเศรษฐกิจโลก ซึ่งธนาคารคาดว่าจะขยายตัวเพียง 1.7% ในปีนี้
สถาบันในวอชิงตันคาดการณ์ว่าการลงทุนต่ำจะชะลอการเติบโตในประเทศกำลังพัฒนา โดยการเติบโตของ GDP โดยเฉลี่ยจะลดลงเหลือ 4% ในช่วงที่เหลือของปี 2020
(ที่มา : สำนักข่าว RT)