อังกฤษและญี่ปุ่นลงนามในข้อตกลงด้านกลาโหมที่สำคัญอย่างยิ่ง

อังกฤษและญี่ปุ่นลงนามในข้อตกลงด้านกลาโหมที่สำคัญอย่างยิ่ง

นายกรัฐมนตรีอังกฤษและญี่ปุ่นจะลงนามในข้อตกลงด้านกลาโหมใหม่ที่ “สำคัญอย่างยิ่ง” ซึ่งอนุญาตให้กองทหารสหราชอาณาจักรประจำการในญี่ปุ่นเมื่อทั้งคู่ได้พบกันในลอนดอนในวันพุธที่ผ่านมา ข้อตกลงดังกล่าวเป็นสัญญาณล่าสุดที่แสดงถึงความสนใจที่เพิ่มขึ้นของลอนดอนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และความพยายามของโตเกียวในการเสริมสร้างพันธมิตรเพื่อเผชิญกับความท้าทายที่เกิดจากจีน

ข้อตกลงดังกล่าวสร้างพื้นฐานทางกฎหมายสำหรับการวางกำลังทหารอังกฤษและญี่ปุ่นในดินแดนของกันและกันเพื่อการฝึกและปฏิบัติการอื่นๆ สำนักงานของนายกรัฐมนตรี Rishi Sunak เรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็น “ข้อตกลงกลาโหมที่สำคัญที่สุดระหว่างสองประเทศในรอบกว่าศตวรรษ”

“ข้อตกลงการเข้าถึงซึ่งกันและกันนี้มีความสำคัญอย่างมากสำหรับทั้งสองประเทศของเรา – เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราที่มีต่ออินโดแปซิฟิกและเน้นย้ำถึงความพยายามร่วมกันของเราในการส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ” ญี่ปุ่นเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาได้ลงนามในข้อตกลงที่คล้ายกันกับออสเตรเลีย และเมื่อเร็วๆ นี้โตเกียวได้ยกเรื่องนโยบายการป้องกันและความมั่นคงเพื่อจัดการกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นจากจีน

เรือและเครื่องบินของอังกฤษสามารถเดินทางเยือนญี่ปุ่นและในทางกลับกันได้ แต่ต้องมีการรับรู้กันทางการทูต และต้องมีการผ่านพิธีการของกระทรวงต่างประเทศทุกครั้ง นายกญี่ปุ่นนายคิชิดะกำลังเดินทางเยือนกลุ่มพันธมิตร G7 เพื่อพูดคุยที่เน้นเรื่องความปลอดภัย และปิดท้ายด้วยการพบปะกับประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้

จากการเยือนที่กรุงปารีส เขาและเอ็มมานูเอล มาครง ให้คำมั่นว่าจะกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยประธานาธิบดีฝรั่งเศสให้คำมั่นว่าจะคงไว้ซึ่ง “ปฏิบัติการร่วมกันในมหาสมุทรแปซิฟิก” และฝรั่งเศสจะสนับสนุนอย่างเต็มกำลังต่อการรุกรานของเกาหลีเหนือ

  • ญี่ปุ่นมีรัฐธรรมนูญฉบับหลังสงครามสงบ ซึ่งจำกัดขีดความสามารถทางทหารของตนไว้เพียงมาตรการป้องกันอย่างเห็นได้ชัด แต่เมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลอนุมัติแผนเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็น 2% ของ GDP ภายในปี 2570 เพิ่มขึ้นจากระดับ 1% แบบดั้งเดิมและเตือนว่าจีนเป็น “ความท้าทายทางยุทธศาสตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา” ต่อความมั่นคง

โครงการใหม่ “Global Combat Air Programme” มีกำหนดจะผลิตเครื่องบินไอพ่นลำแรกภายในปี 2578 โดยผสานการวิจัยที่มีอยู่ซึ่งมีค่าใช้จ่ายสูงของทั้งสามประเทศเข้ากับเทคโนโลยีสงครามทางอากาศแบบใหม่ ตั้งแต่ความสามารถในการล่องหนไปจนถึงเซ็นเซอร์ไฮเทค

(ที่มา : สำนักข่าว Brecorder)

อ่านข่าวเพิ่มเติม คลิกที่นี่!!

สมัครเปิดบัญชีเทรดกับเรารับ ฟรี SERVER ฟรี VPS และ ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Expert Advisor (EA)