อัตราเงินเฟ้อญี่ปุ่นแตะระดับสูงสุดในรอบ 42 ปี ทำให้ BOJ อยู่ภายใต้แรงกดดัน

ราคาผู้บริโภคหลักในเมืองหลวงของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ชั้นนำของแนวโน้มทั่วประเทศ เพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือนม.ค. จากปีก่อนหน้า นับเป็นการเพิ่มขึ้นประจำปีที่เร็วที่สุดในรอบเกือบ 42 ปี และทำให้ธนาคารกลางอยู่ภายใต้แรงกดดันให้ยุติ ออกมากระตุ้นเศรษฐกิจ

แม้ว่าการอุดหนุนด้านพลังงานของรัฐบาลที่จะเริ่มในเดือนหน้ามีแนวโน้มว่าราคาจะเพิ่มขึ้นในระดับปานกลางจากเดือนกุมภาพันธ์ แต่ข้อมูลดังกล่าวช่วยเพิ่มโอกาสที่อัตราเงินเฟ้อจะยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เนื่องจากบริษัทต่างๆ ยังคงส่งต่อต้นทุนที่สูงขึ้นไปยังครัวเรือนอย่างต่อเนื่อง

การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภคหลักของโตเกียว (CPI) ซึ่งไม่รวมอาหารสดแต่รวมเชื้อเพลิง สูงกว่าค่ากลางที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 4.2% และถือเป็นการเพิ่มขึ้นที่เร็วที่สุดเมื่อเทียบเป็นรายปีนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2524 ตามการเพิ่มขึ้น 3.9% ในเดือนธันวาคมและอยู่เหนือเป้าหมาย 2% ของธนาคารกลางเป็นเดือนที่แปดติดต่อกัน ข้อมูลแสดงเมื่อวันศุกร์

เงินเยนและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปี (JGB) ปรับตัวสูงขึ้นหลังจากการเปิดเผยข้อมูล ซึ่งสะท้อนถึงการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าอัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอาจกระตุ้นให้ BOJ ลดการกระตุ้นเศรษฐกิจในไม่ช้า

BOJ คงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายเป็นพิเศษในเดือนนี้แต่เพิ่มการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในประมาณการรายไตรมาสใหม่ เนื่องจากบริษัทต่างๆ ยังคงส่งต่อต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นไปยังครัวเรือน

คุโรดะ ซึ่งวาระการดำรงตำแหน่งจะสิ้นสุดลงในเดือนเมษายน ได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายไว้จนกว่าค่าจ้างจะสูงขึ้น ซึ่งเปลี่ยนอัตราเงินเฟ้อที่ผลักดันต้นทุนให้เป็นอัตราเงินเฟ้อที่ขับเคลื่อนโดยอุปสงค์ภายในประเทศที่แข็งแกร่ง

(ที่มา : สำนักข่าวรอยเตอร์ส)