หุ้นสหรัฐฯร่วง หลังจีนประกาศยืดนโยบาย COVID-19

ในวันจันทร์นี้ หุ้นสหรัฐฯร่วงลง หลังจากจีนปฏิเสธที่จะผ่อนปรนนโยบาย COVID-19 ช่วยให้เงินดอลลาร์ฟื้นตัวจากการขาดทุนในขณะที่เผชิญกับความพ่ายแพ้ต่อน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์

Asset ต่างๆเกิดความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจาก ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา จีนได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นในแนวทาง “dynamic-clearing” ต่อกรณี COVID ทันทีที่เกิดขึ้น

“ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีการปฏิเสธ แต่ความคิดเห็นที่ว่าจีนจะหันกลับมาใช้ชีวิตร่วมกับโควิดในปีใหม่นี้อาจจะเป็นไปได้ยาก เนื่องจากจำนวนผู้เสียชีวิตที่ติดเชื้อจากโควิด มีผลกระทบต่อนโยบาย Zero-Covid ของจีน” Tapas Strickland หัวหน้าฝ่ายเศรษฐศาสตร์การตลาดของ NAB กล่าว

เเละเมื่อจีนเข้าสู่ฤดูหนาว นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คิดว่าการเปลื่ยนเเปลงของ นโยบาย Zero-Covid ไม่น่าจะมีการเปลื่ยนแปลงจนกว่าจะถึงมีนาคม

โดยมีการคาดการณ์ว่าจีนอาจเปิดเศรษฐกิจ เเละจะเห็นราคาทองแดงพุ่งขึ้น 7% ในวันศุกร์ซึ่งเป็นการพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบวันนับตั้งเเต่ 2009

AUD/USD ลดลง 0.4% ที่ 0.6440 ดอลลาร์หลังจากกระโดด 3% ในวันศุกร์ เเละ USD/CNH เพิ่มขึ้น 0.9% หลังดอลลาร์มีการขยับขึ้น

ซึ่งทาง USDX  0.4% โดยพุ่งขึ้นเกือบ 2% ณ สิ้นสัปดาห์ที่แล้ว ค่าเงินดอลลาร์เป็นเพียงเงาในอดีตของเงินเยนที่ 146.77 เยน ในขณะที่เงินยูโรอ่อนค่าลงเล็กน้อยที่ $0.9944

นอกจากนั้น S&P 500 Futures มีการลดลง 0.5% ในขณะที่ฟิวเจอร์สของ Nasdaq หายไป 0.6%

Apple Inc (NASDAQ: AAPL ) แสดงให้เห็นถึงต้นทุนของนโยบายที่เข้มงวดของปักกิ่งเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยคาดว่าการจัดส่ง iPhone 14 Pro และ iPhone Pro Max จะต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านโควิด-19 ทำให้การผลิตหยุดชะงักชั่วคราว

ทางฝั่งหุ้นเอเชียอย่าง Nikkei ได้มีการเพิ่มขึ้น 0.6% โดยในขณะนี้ตลาดกำลังรอข้อมูลการค้าของจีนที่จะถึงในเซสชั่นสำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับอุปสงค์ทั่วโลก

โดยมีเจ้าหน้าที่เฟดอย่างน้อย 7 รายที่มีกำหนดจะพูดในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะช่วยปรับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยโดยที่ตลาดตอนนี้จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครึ่งจุดในเดือนหน้าเป็น 4.25-4.5% อย่างหวุดหวิด