ราคาน้ำมันดิบลดลงจากความกังวลด้านอุปสงค์และดอลลาร์แข็งค่า

ราคาน้ำมันดิบลดลงจากความกังวลด้านอุปสงค์และดอลลาร์แข็งค่า

ราคาน้ำมันดิบลดลงจากความกังวลด้านอุปสงค์และดอลลาร์แข็งค่า

ปักกิ่ง (รอยเตอร์) – ราคาน้ำมันดิบลดลงในการซื้อขายช่วงเช้าของวันศุกร์ เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตของอุปสงค์ในปี 2568 โดยเฉพาะในประเทศจีน ผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ ส่งผลให้ดัชนีราคาน้ำมันโลกมีแนวโน้มปิดสัปดาห์ลดลงมากกว่า 2%

ราคา น้ำมันดิบเบรนท์ล่วงหน้าลดลง 31 เซ็นต์ หรือ 0.43% เหลือ 72.57 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมื่อเวลา 0139 GMT ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียตของสหรัฐฯ ล่วงหน้าลดลง 26 เซ็นต์ หรือ 0.26% เหลือ 69.12 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

บริษัท Sinopec (OTC: SHIIY ) ซึ่งเป็นบริษัทกลั่นน้ำมันของรัฐบาลจีนเปิดเผยในรายงานแนวโน้มพลังงานประจำปี ซึ่งเผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดีว่า การนำเข้าของจีนอาจถึงจุดสูงสุดเร็วที่สุดในปี 2568 และการบริโภคน้ำมันของประเทศอาจถึงจุดสูงสุดภายในปี 2570 เนื่องจากความต้องการน้ำมันดีเซลและน้ำมันเบนซินลดน้อยลง

การที่ดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 2 ปียังส่งผลต่อราคาน้ำมัน หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าจะระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นทำให้ราคาน้ำมันแพงขึ้นสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น ขณะที่การปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอัตราที่ช้าลงอาจส่งผลให้การเติบโตทางเศรษฐกิจชะลอตัวลงและลดความต้องการน้ำมันลง

JP Morgan มองว่าตลาดน้ำมันจะเคลื่อนตัวจากการสมดุลในปี 2567 ไปสู่การเกินดุล 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ในปี 2568 เนื่องจากธนาคารคาดการณ์ว่าการเติบโตของกลุ่มที่ไม่ใช่ OPEC+ จะเพิ่มขึ้น 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2568 และปริมาณการผลิตของ OPEC ยังคงอยู่ที่ระดับปัจจุบัน

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า ประเทศในกลุ่ม G7 กำลังพิจารณาวิธีที่จะเข้มงวดราคาน้ำมันดิบของรัสเซียมากขึ้น โดยอาจใช้การห้ามใช้น้ำมันดิบโดยสิ้นเชิงหรือลดเกณฑ์ราคาลง รัสเซียหลีกเลี่ยงข้อกำหนดราคาน้ำมันดิบที่ 60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลซึ่งกำหนดไว้ในปี 2022 โดยใช้เรือ “กองเรือเงา” ซึ่งสหภาพยุโรปและอังกฤษได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรเพิ่มเติมในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

อ่านข่าวเพิ่มเติม คลิกที่นี่!!

สมัครเปิดบัญชีเทรดกับเรารับ ฟรี SERVER ฟรี VPS และ ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Expert Advisor (EA)