Wells Fargo เผยการขยายเวลาลดการผลิตของ OPEC+ ส่งผลดีต่อราคาน้ำมัน
นักวิเคราะห์ของ Wells Fargo กล่าวในบันทึกเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการตัดสินใจล่าสุดของ OPEC+ ที่จะขยายการลดการผลิตออกไปจนถึงสิ้นปี 2567 ถือเป็นสัญญาณบวกสำหรับราคาน้ำมัน
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเพื่อตอบสนองต่อราคาน้ำมันดิบที่ลดลง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องของกลุ่ม OPEC+ ที่จะรักษาสภาวะอุปทานตึงตัวทั่วโลกและสนับสนุนให้ราคาน้ำมันสูงขึ้น
เดิมที OPEC+ มีแผนที่จะยกเลิกการลดการผลิต 2.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็นประมาณ 2% ของอุปทานทั่วโลก โดยจะเริ่มในเดือนตุลาคม 2024 และต่อเนื่องไปจนถึงเดือนกันยายน 2025
อย่างไรก็ตาม ความอ่อนแอของเศรษฐกิจโลกในช่วงที่ผ่านมาและราคาน้ำมันที่ลดลงส่งผลให้กลุ่มบริษัทต้องเลื่อนการลดค่าใช้จ่ายที่วางแผนไว้
Wells Fargo ระบุว่า “OPEC+ เลื่อนการเปลี่ยนแปลงนโยบายการผลิตที่กำลังจะมีขึ้น ก่อนหน้านี้ OPEC+ มีแผนที่จะยกเลิกการลดการผลิตบางส่วนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2024” และแนะนำว่าการขยายเวลานี้จะช่วยสร้างสมดุลให้กับผลกระทบจากอุปสงค์ที่ซบเซา
เวลส์ฟาร์โกยังคงมองในแง่ดีเกี่ยวกับแนวโน้มระยะใกล้ของราคาน้ำมัน โดยอ้างถึงการขยายระยะเวลาการลดหย่อนภาษีเป็นปัจจัยที่ช่วยคงเสถียรภาพ
“เราสงสัยว่าการขยายเวลาการลดการผลิตออกไปจนถึงสิ้นปีน่าจะช่วยชดเชยอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอในช่วงนี้”
ธนาคารคงเป้าหมายราคาสำหรับปี 2024 ไว้ที่ 80–90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสำหรับน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) และ 85–95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลสำหรับน้ำมันดิบ Brentโดยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น 5 ดอลลาร์ภายในสิ้นปี 2025 เนื่องจากสภาพแวดล้อมเศรษฐกิจมหภาคที่ปรับปรุงดีขึ้น
เมื่อมองไปข้างหน้า Wells Fargo กำลังติดตามสถานการณ์อุปทานทั่วโลกอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในปี 2568
แม้ว่า OPEC+ จะได้รักษาการลดการผลิตมาเกือบสองปีเพื่อพยุงราคา นักวิเคราะห์ก็แสดงความไม่แน่นอนว่าการสนับสนุนนี้จะดำเนินต่อไปได้อีกนานแค่ไหน
“เราสงสัยว่าจะรักษาการสนับสนุนดังกล่าวต่อไปได้อีกนานแค่ไหน” พวกเขาเตือน แม้ว่าจะไม่คาดว่าจะมีการเบี่ยงเบนที่สำคัญใดๆ จากกลยุทธ์ของ OPEC+ ในอนาคตอันใกล้ก็ตาม
โดยรวมแล้ว Wells Fargo เชื่อว่าการขยายเวลาการลดการผลิตของกลุ่ม OPEC+ คาดว่าจะสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดน้ำมันและพยุงราคาได้จนถึงปี 2567