แนวรับและแนวต้านคืออะไร?
Support และ Resistance หรือ “แนวรับและแนวต้าน” เป็นหนึ่งในแนวคิดที่ใช้กันอย่างแพร่หลายที่สุดในการซื้อขาย โดยเป็นการวาดเส้นหรือมีแนวคิดที่แตกต่างกันไป
ภาพด้านบน เป็นเหมือนรูปแบบซิกแซกที่ราคากำลังไต่ขึ้นเรื่อยๆ (“ตลาดกระทิง”)
เมื่อราคาขยับขึ้นแล้วเกิดการ pulls back จุดสูงสุดก่อนที่จะเกิดการ pulls back เราเรียกว่าแนวต้าน ระดับแนวต้านบ่งบอกถึงส่วนเกินของผู้ขายอยู่จุดใด และเมื่อราคาวิ่งขึ้นอีกครั้ง จุดต่ำสุดล่าสุดนี้เราจะเรียกว่าแนวรับ ที่บ่งบอกถึงมีผู้ซื้อเกินดุลอยู่จุดใด โดยแนวต้านและแนวรับจะเป็นรูปแบบที่ดูเหมือนการ Swing high และ Swing low ไต่ขึ้นไปเรื่อยๆ
วิธีการซื้อขายแนวรับและแนวต้านโดยพื้นฐานมีดังนี้ การเทรดแบบ “Bounce” และการเทรดแบบ “Break“
พล็อตระดับแนวรับและแนวต้าน
สิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือระดับแนวรับและแนวต้านไม่ใช่ระดับที่แน่นอน เพราะว่าบางครั้งเส้นที่เราตีก็สามารถถูกเบรกได้เช่นกัน
ด้วยแผนภูมิแท่งเทียน “การ tests” ของแนวรับและแนวต้านมักจะแสดงด้วยไส้ของแท่งเทียน
สังเกตว่าไส้ของแท่งเทียนทดสอบแนวรับ 1.4700 และดูเหมือนกำลังทำลายแนวรับที่เราตีไว้ได้ แต่พอเวลาผ่านไป เมื่อเราย้อนกลับไปดู เราจะเห็นว่าราคาเป็นเพียงการทดสอบเท่านั้นและราคาสามารถยืนที่ระดับ 1.4700
แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นเสมอไป
ลองมาดูตัวอย่างเดียวกันจากด้านบนและดูว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อราคาจริงสามารถปิดผ่านระดับแนวรับ 1.4700 ได้
ในกรณีนี้ ราคาปิดต่ำกว่าระดับแนวรับ 1.4700 แต่สามารถกลับขึ้นยืนเหนือระดับดังกล่าวได้ และหากเราคาดว่า ราคาถูกเบรกแนวรับนี้ได้แล้วและเราทำการขายออเดอร์ เราจะต้องเจ็บปวดอย่างมาก! เพราะราคาไม่ได้ลงจริงๆ และสามารถขึ้นได้แรงกว่าเดิมมากๆ
เพื่อช่วยเราสามารถกรองการการ false breakout นี้ออกไปได้ เราควรปรับ mindset ที่ว่าแนวรับแนวต้านเป็น “โซน” มากกว่าเป็นตัวเลขที่เป็นรูปธรรม วิธีที่จะช่วยเราค้นหาโซนเหล่านี้คือให้เราพล็อตแนวรับและแนวต้านบนกราฟเส้นแทนที่จะเป็นกราฟแท่งเทียน เพราะว่ากราฟเส้นจะแสดงเฉพาะราคาปิดของราคาเท่านั้น
เมื่อวางแผนแนวรับและแนวต้าน เราไม่ต้องการการตอบสนองของตลาด แต่ต้องการวางแผนการเคลื่อนไหวโดยเจตนาหรือที่เรียกว่า intentional movements
ดังรูป เราต้องพล็อตเส้นแนวรับและแนวต้านรอบ ๆ ในพื้นที่ที่เราเห็นราคาก่อตัวขึ้นหรือลงได้หลายจุดหรือกระทบหลายๆจุด
เรื่องน่ารู้อื่นๆ เกี่ยวกับแนวรับและแนวต้าน
- เมื่อราคาผ่านแนวต้าน แนวต้านนั้นก็จะกลายเป็นแนวรับได้
- ยิ่งราคาทดสอบระดับแนวต้านหรือแนวรับโดยไม่ทำลายมันมากเท่าไหร่ พื้นที่ของแนวต้านหรือแนวรับก็จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น
- เมื่อระดับแนวรับหรือแนวต้านทะลุ ราคาจะเคลื่อนที่ไปยังแนวรับหรือแนวต้านที่แข็งแกร่งในเส้นต่อไป
(ขอบคุณข้อมูลจาก : babypips.com)