น้ำมัน WTI ร่วง 0.6% หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐทำให้อุปสงค์ลดลง

น้ำมัน WTI ร่วง 0.6% หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐทำให้อุปสงค์ลดลง

น้ำมัน WTI ร่วง 0.6% หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยสหรัฐทำให้อุปสงค์ลดลง ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบของนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อจัดการกับเงินเฟ้อ บวกกับปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่เพิ่มขึ้น ส่งผลต่อราคา

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 0.6% เป็น 84.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ของสหรัฐฯ ลดลง 0.6% สู่ระดับ 78.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เกณฑ์มาตรฐานทั้งสองมีแนวโน้มลดลงประมาณ 2% ต่อสัปดาห์

ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนม.ค. หลังจากลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค. ตามข้อมูลที่เผยแพร่เมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและกระตุ้นให้อัตราผลตอบแทนกระทรวงการคลังสหรัฐเพิ่มขึ้น

จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสหรัฐฯ ลดลงอย่างไม่คาดฝันเป็น 194,000 ราย เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ที่ 200,000 รายในแบบสำรวจของรอยเตอร์ ยิ่งทำให้มุมมองที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐอาจดำเนินนโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป

สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2564 หลังจากสร้างปริมาณมากเกินคาด

แม้จะมีข่าวเชิงลบ แต่นักลงทุนน้ำมันคาดว่าอุปสงค์เชื้อเพลิงของจีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันรายใหญ่ของโลกจะฟื้นตัว โดย IEA กล่าวว่าอุปสงค์น้ำมันของจีนจะกลับมาเพิ่มมากขึ้นหลังจากยกเลิกมาตการ Zero Covid

อย่างไรก็ตาม การลดอัตราการผลิตของกลุ่มประเทศ OPEC+ อาจส่งผลให้อุปทานขาดดุลในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ โดยเจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีของซาอุฯ เพิ่งยืนยันว่าข้อตกลงปัจจุบันของ OPEC+ ที่ปรับลดเป้าหมายการผลิตน้ำมันลง 2 ล้านบาร์เรลต่อวันจะถูกล็อกไว้จนถึงสิ้นปีนี้

(Source : investing.com)

อ่านข่าวเพิ่มเติม คลิกที่นี่!!

สมัครเปิดบัญชีเทรดกับเรารับ ฟรี SERVER ฟรี VPS และ ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Expert Advisor (EA)