อัตราเงินเฟ้อสหรัฐผ่อนคลายลงในเดือนก.พ. อยู่ที่ 6.0%
สำนักสถิติแรงงาน (Bureau of Labor Statistics) กระทรวงแรงงานของสหรัฐอเมริกา แถลงดัชนีราคาผู้บริโภค (Consumer Price Index : CPI) หรือมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อประจำเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ซึ่งนักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตารอคอย รวมถึงผู้กำหนดนโยบายการเงินของสหรัฐที่กำลังเจอทางแยกอันท้าทายระหว่างการสู้เงินเฟ้อ กับการรักษาเสถียรภาพของตลาด-ภาคการเงิน และการเติบโตของเศรษฐกิจ
. . . อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ 2566 อยู่ที่ 6.0% ชะลอลงมาจากอัตราเงินเฟ้อเดือนมกราคม 2566 ซึ่งอยู่ที่ 6.4% และนับเป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 17 เดือน แต่ก็ยังคงสูงกว่าเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% อยู่มาก
ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐพยายามลดอัตราเงินเฟ้อโดยขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายครั้ง ประธาน Jerome Powell ซึ่งให้การต่อหน้าคณะกรรมาธิการการธนาคารของวุฒิสภาเมื่อวันที่ 7 มีนาคม กล่าวว่า พวกเขาอาจต้องก้าวที่ใหญ่ขึ้น แม้ว่าหนทางข้างหน้าจะมีผลกระทบตามมา
— ตอนนี้การคาดการณ์เงินเฟ้อของตลาดแยกออกเป็นสองมุมมอง โดยส่วนมากในตลาดมองว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% และมีมุมมองอีกส่วนหนึ่งที่มองว่าเฟดจะหยุดขึ้นดอกเบี้ยชั่วคราวในการประชุมครั้งที่จะถึงนี้ แล้วค่อยเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อไปในการประชุมครั้งถัดไป
อัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มสูงขึ้นมีส่วนทำให้ธนาคารสองแห่งล้มเหลวในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ธนาคาร Silicon Valley ซึ่งตั้งอยู่ในแคลิฟอร์เนีย และ Signature Bank ซึ่งตั้งอยู่ในนิวยอร์ก เป็นสถาบันระดับภูมิภาคขนาดกลางที่เสี่ยงต่ออัตราที่สูงขึ้น
คำแถลงการณ์จากประธานาธิบดีโจ ไบเดน กล่าวในแถลงการณ์ที่เผยแพร่เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า จะมีความพ่ายแพ้ระหว่างทางไปสู่การเติบโตที่มั่นคงและมีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตาม เขาชี้ไปที่ตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเท่ากับที่เคยเป็นมาในรอบหลายปีที่ผ่านมา
(ที่มา : สำนักข่าว NHK)