OPEC กดดันราคาน้ำมัน 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
“OPEC” และพันธมิตร นัดประชุม จะ “หั่น” การผลิตน้ำมันดิบหรือไม่ — ถ้าใช่ จะเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี!
ตั้งแต่โลกเจอมหันตภัยต้อง “ล็อกดาวน์” ในเดือน เม.ย. 2020 ซ้ำยังเกิด “สงครามราคาน้ำมัน” เพราะครานั้นสมาชิกโอเปกและพันธมิตรขัดแย้งถึงขั้นแตกหัก และแล้วบทสรุปก็กลับมา “จับมือกันแน่น” หั่นการผลิตเกือบ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน เริ่มต้นเมื่อ พ.ค. 2020
นับจากนั้นเป็นต้นมา โอเปกและพันธมิตรมีแต่ “ทยอยเพิ่ม” การผลิตมากขึ้น — เพราะล็อกดาวน์หนักสุด ก็ เม.ย. 2020 แล้วจากนั้นโลกก็ค่อยๆ “คลายล็อก”/“ปลดล็อก” ฉะนั้น การใช้น้ำมันก็เพิ่มขึ้น โอเปกและพันธมิตรก็ผลิตไล่ขึ้นตาม ให้สอดคล้อง เป็นขั้นบันได
โอเปกและพันธมิตร มี “วินัย” อย่างยิ่ง ค่อยๆ เพิ่มไป
มีบางครั้งที่เหมือนจะเกิดภาวะ “ขาดตลาด” — โดยเฉพาะในตอนที่รัสเซียโดนคว่ำบาตร อเมริกาเรียกร้องให้โอเปกผลิตเพิ่ม … แต่ก็มิได้เพิ่มการผลิตตามที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนร้องขอ
โอเปก+ กำลังตรวจสอบสามทางเลือกที่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคม โดยยึดโควตาการผลิตที่มีอยู่ ประกาศ “ความตั้งใจที่จะลด” การผลิตในเดือนหน้าซึ่งอยู่ระหว่างรอข้อมูลอุปสงค์และอุปทานใหม่ หรือตกลงที่จะลดกำลังการผลิตในทันทีตุลาคม.
Christyan Malek นักวิเคราะห์ของ JPMorgan กล่าว
ในการประชุมของพวกเขาในวันจันทร์นี้ องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมันโอเปก และพันธมิตร หรือกลุ่มที่รู้จักกันในชื่อโอเปก+ อาจตัดสินใจที่จะรักษาระดับผลผลิตในปัจจุบัน หรือแม้แต่ลดการผลิตเพื่อหนุนราคา แม้ว่าอุปทานจะยังคงตึงตัวอยู่ก็ตาม
หมายเหตุ
ตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครน (24 ก.พ. 2022) ราคาน้ำมันดิบ ICE Brent ตลาดโลก ดีดขึ้นไป 130 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากนั้นก็แกว่งอยู่ราวๆ 100-120 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลมาตลอด กระทั่งเข้าเดือน ส.ค. 2022 กลับหลุดจาก 100 ดอลลาร์ ลงมาแถวๆ 90 กว่าๆ (ก่อนสงคราม ช่วงปลายปีก่อน ราคาอยู่แถวๆ 80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเท่านั้น)
(ที่มา:FINANCIAL TIMES)