ราคาน้ำมันร่วงกว่า 3% หลังการวิตกโควิดของจีน กดดันโอเปกหั่นอุปสงค์น้ำมัน

15 พฤศจิกายน 2022
kongpop

ราคาน้ำมันร่วงกว่า 3% หลังการวิตกโควิดของจีน กดดันโอเปกหั่นอุปสงค์น้ำมัน

ราคาน้ำมันร่วงกว่า 3% หลังการวิตกโควิดของจีน กดดันโอเปกหั่นอุปสงค์น้ำมัน

ราคาน้ำมันร่วงกว่า 3% หลังการวิตกโควิดของจีน กดดันโอเปกหั่นอุปสงค์น้ำมัน ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงในวันอังคาร เนื่องจากผู้ป่วยโรคโควิด 19 ที่มากขึ้นในจีน ทำให้เกิดความกลัวต่อการบริโภคเชื้อเพลิงที่ลดลงจากผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่ของโลก และหลังจากที่โอเปกปรับลดการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2022

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 27 เซนต์หรือ 0.3% สู่ระดับ 92.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากร่วงลง 3% ในวันจันทร์
ราคาน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐอยู่ที่ 85.37 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง 50 เซนต์หรือ 0.6% หลังจากร่วงลง 3.5% ในช่วงก่อนหน้า ภายในเวลา 11:16น.
ราคาทองคำลอยตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือนในวันอังคารเนื่องจากสัญญาณที่หลากหลายจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับเส้นทางของอัตราดอกเบี้ย ทำให้เงินดอลลาร์ถูกตรึงไว้ที่ระดับต่ำสุด แต่ทองคำยังคงทรงตัวเนื่องจากค่าเงินดอลลาร์หลังจากธนาคารกลางสหรัฐส่งสัญญาณว่าจะยังคงเร่งมาตรการณ์แก้ไขเงินเฟ้อ

นักลงทุนมีความรู้สึกเชิงบวกต่อการประกาศของจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจะลดผ่อนปรนนโยบายโควิดเป็นศูนย์ หวังกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการพลังงาน และนักวิเคราะห์กล่าวว่าการล็อกดาวน์และจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นยังคงเป็นความเสี่ยงด้านลบ (downside risk) ที่ต้องเจอ

“การล็อกดาวน์ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นในจีนเป็นผลกระทบเชิงลบต่อความต้องการน้ำมันมากกว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจ”

Stephen Innes หุ้นส่วนผู้จัดการของ SPI Asset Management กล่าว

การเติบโตของผลผลิตโรงงานของประเทศชะลอตัวลง ยอดค้าปลีกลดลง บวกกับอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำลงอีกในเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจในจีนกำลังเสียศูนย์ในขณะนี้

ในขณะเดียวกัน องค์กรของประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกในปี 2022 เป็นครั้งที่ 5 นับตั้งแต่เดือนเมษายน โดยอ้างถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงและอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

ในรายงานรายเดือนพฤศจิกายน ระบุว่าความต้องการน้ำมันในปี 2022 จะเพิ่มขึ้น 2.55 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) หรือ 2.6%  ลดลง 100,000 บาร์เรลต่อวันจากประมาณการเดิม

OPEC กล่าวในรายงานว่า “เศรษฐกิจโลกได้เข้าสู่ช่วงเวลาของความไม่แน่นอน และความเสี่ยงด้านลบ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อสูง ระดับหนี้สาธารณะที่สูงในหลายภูมิภาค การตึงตัวของเงินโดยธนาคารกลางและตลาดแรงงาน และการจำกัดห่วงโซ่อุปทานอย่างต่อเนื่อง”

สิ่งนี้เกิดขึ้นหลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund) กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่าแนวโน้มเศรษฐกิจโลกจะแย่ลงกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนที่แล้ว โดยอ้างถึงการสำรวจผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อที่แย่ลงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา

การห้ามส่งน้ำมันของรัสเซียไปยังสหภาพยุโรปมีกำหนดจะเริ่มในวันที่ 5 ธันวาคม เป็นการตอบโต้ต่อการรุกรานยูเครนของรัสเซีย การแบนดังกล่าวจะตามมาด้วยการหยุดนำเข้าผลิตภัณฑ์น้ำมันในเดือนกุมภาพันธ์

อย่างไรก็ตาม บริเวณหินดินดานที่มีอายุมากกำลังแสดงผลผลิตต่อหลุมที่อ่อนแอลง ทำให้การผลิตน้ำมันดิบโดยรวมของสหรัฐในบริเวณหินดินดานเพิ่มขึ้นเพียง 91,000 บาร์เรลต่อวันเป็น 9.191 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธันวาคม แม้ว่าราคาจะพุ่งสูงขึ้นก็ตาม EIA กล่าว

(Source : investing.com)

อ่านข่าวเพิ่มเติม คลิกที่นี่!!

สมัครเปิดบัญชีเทรดกับเรารับ ฟรี SERVER ฟรี VPS และ ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Expert Advisor (EA)