Dow Jones ปิดลบหลังหุ้น Apple ร่วงกว่า 5%

Dow Jones ปิดลบหลังหุ้น Apple ร่วงกว่า 5%

Dow Jones ปิดลบหลังหุ้น Apple ร่วงกว่า 5%

Dow Jones ปิดลบเเละร่วงลงอย่างหนักในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจาก Appleดิ่งลงอย่างมาก จากความกลัวว่าธนาคารกลางจะปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้นอีก

โดยดัชนีหลักอย่าง DJIA หรือ ค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 1.5% คิดเป็น 458 จุด เเละ Nasdaq ลดลง 2.8% กับ  S&P 500 ที่ปรับตัวลง 2.1%

ซึ่งเป็นผลมาจาก หุ้นหลักอย่าง AAPL หรือ Apple ที่ร่วงลงถึง 5% หลังจากที่ Bank of America ปรับลดอันดับบริษัทเป็น Neutral จาก Buy เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัว

Bank of America กล่าวว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีจะต้องเผชิญกับ “การแก้ไขประมาณการเชิงลบอย่างมาก” ในปีหน้า โดยชี้ไปที่การชะลอตัวใน “บริการและระยะเวลารอคอย iPhone ที่ไม่ค่อยเป็นเรื่องดีเท่าไรนัก” เนื่องจากเป็นสัญญาณว่าความต้องการของผู้บริโภคจะชะลอตัวลง 

นอกจากนั้นความเชื่อมั่นในหุ้นเซมิคอนดักเตอร์ที่ปรับลดอันดับลง โดยซัพพลายเออร์ชิปของ Apple ซึ่งรวมถึง Taiwan Semiconductor Manufacturing (NYSE: TSM ), Qualcomm Incorporated (NASDAQ: QCOM ) และ Analog Devices Inc (NASDAQ: ADI ) ส่งผลให้ NVIDIA (NASDAQ: NVDA ) ลดลง 4%

อีกทั้งในฝั่งของ META Platforms (NASDAQ: META ) ร่วงลงมากกว่า 3% จากความกลัวว่าการเติบโตจะชะลอตัวลงอีกหลังจาก Bloomberg โดยอ้างถึงการพูดคุยภายในทั้งหมด รายงานว่า Mark Zuckerberg CEO ได้ประกาศแผนการที่จะหยุดการจ้างงานซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการย้ายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ ธุรกิจ

ในด้านของ PCE หรือ ดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลซึ่ง เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดต้องการ ปรับตัวขึ้นเป็น 7.3% ในขณะที่มาตรการราคา PCE หลัก ซึ่งไม่รวมอาหารและพลังงานได้ปรับขึ้นเป็น 4.7% จาก 4.4% ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

ข้อมูลดังกล่าวเกิดขึ้นก่อนตัวเลขเงินเฟ้อใหม่ที่จะครบกำหนดในวันศุกร์ซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ 0.5% ในดัชนีราคา PCE ในเดือนสิงหาคม   

ข้อมูลการขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ล่าสุดยังชี้ให้เห็นว่าเฟดมีงานต้องทำมากขึ้นตามการเรียกร้องในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 กันยายน ลดลง 16,000 เหลือ 193,000 อย่างไม่คาดคิด

Loretta J. Mester ประธานเฟดแห่งคลีฟแลนด์กล่าวว่าอัตราเงินเฟ้อนั้น ‘สูงเกินควร’ และย้ำถึงความตั้งใจของเฟดที่จะนำอัตราเงินเฟ้อกลับคืนสู่เป้าหมาย 2% แม้ว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวก็ตาม

ในขณะเดียวกัน หุ้นผู้บริโภคร่วงลงมากกว่า 3% หลังจากที่บริษัท CarMax Inc (NYSE: KMX) ร่วงลง 24% (NYSE: KMX ) หลังจากที่บริษัทขายรถยนต์รายงาน ผลประกอบการ รายไตรมาสซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้

Bed Bath & Beyond (NASDAQ: BBBY ) ลดลง 4% หลังจากรายงานการขาดทุนที่กว้างเกินคาด ตามการลดลงใน Buybuy Baby ซึ่งเป็นเครือข่ายสินค้าสำหรับเด็กอ่อน

ในส่วนของข่าวอื่นๆอย่าง Peloton Interactive (NASDAQ: PTON ) ร่วงลง 14% หลังจากให้รายละเอียดแผนการขายอุปกรณ์ที่ Dick’s Sporting Goods ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์อุปกรณ์ออกกำลังกายที่ชะลอตัวลงอีก

เเละ อัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาล ที่เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นศัตรูของภาคการเติบโต เช่น หุ้นเทคโนโลยีที่ยังคงเพิ่มแรงกดดันต่อตลาดในวงกว้างเนื่องจากการปรับปรุงอัตราเงินเฟ้อในไตรมาสที่สองแนะนำว่า Federal Reserve จะยังคงมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

อ่านข่าวเพิ่มเติม คลิกที่นี่!!

สมัครเปิดบัญชีเทรดกับเรารับ ฟรี SERVER ฟรี VPS และ ระบบเทรดอัตโนมัติ หรือ Expert Advisor (EA)