Elon Musk เปลื่ยนกฏการลงคะเเนน หลังชาวทวิต 57.5% ต้องการให้ Musk ออกจากตำแหน่ง CEO
Elon Musk ได้ทำการเปลื่ยนกฏการลงคะเเนนในโพลสำรวจความคิดเห็นที่เขาประกาศว่าจะทำตาม ซึ่งการเปลื่ยนแปลงกฏนั้นถูกเปลื่ยนเป็น “เฉพาะสมชิกระดับ Blue เท่านั้นที่มีสิทธิ์ในการลงคะเเนน”
โดยโพลสำรวจเมื่อเเรกเริ่มนั้นคือ “เห็นด้วยหรือไม่ที่ Musk จะออกจากตำแหน่ง CEO ของทวิตเตอร์” เเละนอกจากนั้น Musk เองยังประกาศว่าเขาจะ’ทำตาม’ผลที่ออกมา
การเปลื่ยนแปลงกฏนั้นเกิดขึ้นหลังผลสำรวจได้รับคำตอบรับเป็นจำนวนกว่า 17.5 ล้านโหวต ซึ่งเป็นจำนวนกว่า 57.5% ที่ต้องการให้ Musk ออกจากตำแหน่ง CEO ของทวิตเตอร์
ผู้บริหารระดับสูง ของ Tesla Inc (NASDAQ: TSLA ) ซึ่งซื้อกิจการ Twitter เมื่อต้นปีนี้ ได้กล่าวว่าการตัดสินใจเชิงนโยบายที่สำคัญทั้งหมดสำหรับเว็บไซต์โซเชียลมีเดียจะตัดสินโดยการลงคะแนนเสียงของสาธารณชน การจำกัดที่เป็นไปได้ของบัญชีที่ได้รับการยืนยันเท่านั้นในการลงคะแนนในแบบสำรวจเหล่านี้ เพื่อให้จำนวนผู้เข้าร่วมลดลง
นอกจากนี้ยังให้แรงจูงใจมากขึ้นในการสมัครบริการยืนยันซึ่งเพิ่งเปิดตัวใหม่โดย Twitter หลังจากการเปิดตัวที่เสียหายในเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเห็นการแอบอ้างและบัญชีปลอมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียพุ่งสูงขึ้น
บริการสมัครสมาชิก Twitter Blue ให้ผู้ใช้ตรวจสอบโปรไฟล์เป็นสีน้ำเงินและคุณสมบัติอื่น ๆ รวมถึงความสามารถในการแก้ไขทวีต การดำเนินการบล็อกและปิดเสียงโดยผู้ใช้ Blue จะถูกรวมเข้ากับแพลตฟอร์มในฐานะผู้ลงคะแนน
Musk รวบรวมข้อโต้เถียงเกี่ยวกับการซื้อกิจการ Twitter ของเขา หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเว็บไซต์ได้ระงับบัญชีของนักข่าวที่มีชื่อเสียงหลายคนซึ่งถูกมองว่าวิพากษ์วิจารณ์ CEO ของ Tesla เว็บไซต์ดังกล่าวยังได้ระงับบัญชีที่ติดตามตำแหน่งตามเวลาจริงของบุคคลสาธารณะ ซึ่งเป็นบัญชีที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ติดตามเครื่องบินส่วนตัวของ Musk
นอกจากนั้น CEO ของ Tesla ยังได้สร้างความเดือดดาลจากผู้ถือหุ้นด้วยข้อกล่าวหาว่า
เขาละเลยหน้าที่ของเขา ในฐานะของ CEO บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า
เเละมัสก์ยังถูกหลอกขายหุ้นเทสลามูลค่ากว่า 3 พันล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้จะยืนยันซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าเขาจะไม่ทำเช่นนั้น
ซึ่งจากการกระทำที่ผ่านมานั้น ได้ลดความเนื่อเชื่อถือของ Elon Musk ในฐานะ CEO ของทั้ง Tesla เเละ Twitter กับการที่ Musk ได้มีการกระทำเช่นนี้ออกมาในที่สาธารณะ ทำให้หุ้นของ Tesla ในวันนี้ดรอปลงอีก 0.24% อยู่ที่ 149.87 ดอลลาร์ เเละ นอกจากนั้นแบรนด์สินค้าหลายชนิดได้มีการหยุดซื้อโฆษณาทางทวิตเตอร์ ส่งผลให้เกิดความสูญเสียรวมราว 4,000,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน
อีกทั้ง Musk ยังเป็นคนออกมายืนยันเองว่า แบรนด์สินค้าชั้นนำที่ลงโฆษณากับทวิตเตอร์ เช่น อาวดี้ (Audi), จีเอ็ม (General Motors) รวมถึงไฟเซอร์ (Pfizer) หยุดการซื้อโฆษณาบนทวิตเตอร์ จากประเด็นความโกลาหลและความไม่แน่นอนของบริษัท