Samsung รายรับลดลง 8% กำไรรายไตรมาสต่ำสุดในรอบ 8 ปี
บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ ยักษ์ใหญ่อย่าง Samsung Electronics รายงานผลกำไรรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจที่คาดว่าจะคงอยู่ในช่วงครึ่งปีเเรกอาจจะสร้างปัญหาได้
โดยอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงเเละการปรับสินค้าคงคลังจะยังคงส่งผลกระทบต่อธุรกิจชิปในไตรมาสแรกของ Samsung เเละคาดว่า “ความต้องการสมาร์ทโฟนจะลดลงทุกปีเนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจในภูมิภาคหลัก”
Samsung รายงานว่าผลกำไรในไตรมาสที่ 4 ลดลง 69% เนื่องจากความต้องการของผู้บริโภคสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ลดลง
ซึ่งลูกค้าใช้จ่ายน้อยลงในช่วงเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ทำให้ราคาชิปหน่วยความจำลดลง
กำไรจากการดำเนินงานในเดือนตุลาคมถึงธันวาคมเป็นกำไรรายไตรมาสที่ต่ำที่สุดของ Samsung ในรอบแปดปี รายรับลดลง 8% เป็น 70.5 ล้านล้านวอน
ตามข้อมูลเว็บไซต์ของ Samsung ระบุว่า ด้วยราคาชิปหน่วยความจำที่ลดลงอย่างมากในปีที่เเล้ว ทำให้กำไรจากชิปของ Samsung ก็ร่วงลงเช่นกัน เหลือประมาณ 270 พันล้านวอนในไตรมาสที่ 4 จาก 8.83 ล้านล้านวอนในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งถือว่าต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการบัญชีในปี 2011
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว บริษัทผู้ผลิตชิป Intel Corp (NASDAQ: INTC ) กล่าวว่า บริษัทคาดว่าจะสูญเสียเงินในไตรมาสปัจจุบัน เนื่องจากอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลประสบกับภาวะขาดแคลนชิป
ทางด้านคู่เเข่งอย่าง Micron Technology Inc (NASDAQ: MU ) และ SK Hynix Inc ได้กล่าวแล้วว่าพวกเขาจะลดการลงทุนในปี 2023
นักลงทุนต่างจับตามองว่า Samsung หลีกเลี่ยงการกล่าวถึงการลดการผลิตชิปโดยตรงเหมือนที่เคยเป็นมา หรือการให้สัญญาณที่ชัดเจนของการลดการผลิตเนื่องจากความรุนแรงของวงจรการหยุดทำงานของชิปหน่วยความจำ
ในด้านมือถือ Samsung กล่าวว่ากำไรในไตรมาสที่ 4 ลดลงเหลือ 1.7 ล้านล้านวอนจาก 2.66 ล้านล้านวอนในปีก่อนหน้า เนื่องจากยอดขายสมาร์ทโฟนระดับล่างและระดับกลางที่ลดลงมากกว่าที่คาดไว้เนื่องจาก “อัตราเงินเฟ้ออย่างต่อเนื่องและความไม่แน่นอนทางการเมือง”