S&P ปรับลดอันดับเครดิต First Republic Bank
S&P ปรับลดอันดับเครดิต First Republic Bank อยู่ในสถานะ ‘หุ้นขยะ’ โดย S&P Global (NYSE: SPGI ) ซึ่งกล่าวว่าการฝากเงินเข้า 30,000 ล้านดอลลาร์ของผู้ให้กู้ล่าสุดจากธนาคารขนาดใหญ่ 11 แห่งอาจไม่สามารถแก้ปัญหาสภาพคล่องได้
S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ First Republic ลง 3 ระดับเป็น “B-plus” จาก “BB-plus” และเตือนว่ามีความเป็นไปได้ที่จะปรับลดอันดับเครดิตอีกครั้ง ส่วนอันดับอื่นๆ ก็ลดลงเช่นกัน
หน่วยงานดังกล่าวกล่าวว่า First Republic มีแนวโน้มที่จะเผชิญกับ “ความเครียดด้านสภาพคล่องสูงและการไหลออกจำนวนมาก” ในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการเงินฝากที่เพิ่มขึ้น การกู้ยืมที่เพิ่มขึ้นจากธนาคารกลางสหรัฐ และการระงับการจ่ายเงินปันผลหุ้นสามัญ
โดยกล่าวว่าแม้ว่าการฝากเงินเข้าจะช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านสภาพคล่องในระยะสั้น แต่ “อาจไม่สามารถแก้ปัญหาทางธุรกิจ สภาพคล่อง เงินทุน และความสามารถในการทำกำไรที่สำคัญ ซึ่งเราเชื่อว่าธนาคารน่าจะเผชิญอยู่ในขณะนี้”
การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของ S&P ในวันอาทิตย์เป็นครั้งที่สองในรอบสี่วันสำหรับ First Republic ซึ่งก่อนหน้านี้มีอันดับเครดิตเป็น “-A”
อาจเพิ่มความกังวลของตลาดเกี่ยวกับธนาคารในซานฟรานซิสโกซึ่งได้พยายามสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและผู้ฝากเงินเกี่ยวกับสุขภาพหลังจากการล่มสลายของ Silicon Valley Bank ซึ่งให้บริการลูกค้าผู้มั่งคั่งและ Signature Bank ( NASDAQ : SBNY )
สถาบันจัดอันดับอีกแห่งหนึ่ง Moody’s (NYSE: MCO ) Investors Service ปรับลดสถานะ First Republic เป็น Junk เมื่อวันศุกร์
ในแถลงการณ์หลังการปรับลด S&P First Republic กล่าวว่าเงินฝากใหม่และเงินสดในมือปล่อยให้ “อยู่ในตำแหน่งที่ดีในการจัดการกิจกรรมเงินฝากระยะสั้น การสนับสนุนนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นใน First Republic และความสามารถในการให้บริการที่ยอดเยี่ยมอย่างต่อเนื่องแก่บริษัท ลูกค้าและชุมชน”
ถ้อยแถลงสะท้อนถ้อยแถลงร่วมกันเมื่อวันพฤหัสบดีจากธนาคารที่ใหญ่ที่สุดสี่แห่งของสหรัฐฯ ได้แก่ JPMorgan Chase & Co, Bank of America Corp (NYSE: BAC ), Citigroup Inc (NYSE: C ) และWells Fargo (NYSE: WFC ) & Co– ที่ร่วมกันฝากเงิน 20 พันล้านเหรียญ
หุ้น First Republic ร่วงลง 32.8% ในวันศุกร์สู่ระดับ 23.03 ดอลลาร์ ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลว่าปัญหาจะตามมาอีกมาก
หุ้นร่วงลง 80% ตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม เมื่อ SVB Financial Group บริษัทแม่ของ Silicon Valley Bank ทำให้นักลงทุนตกใจด้วยการเปิดเผยผลขาดทุนจากการลงทุนครั้งใหญ่และความต้องการเงินทุนใหม่ ทำให้ธนาคารต้องดำเนินการ