นับถอยหลังการประชุมเฟดครั้งสุดท้ายปี 2565
ข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมากรอ Wall Street ในสัปดาห์นี้เนื่องจากนักลงทุนเข้าใกล้การประชุมกำหนดอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้ายของธนาคารกลางสหรัฐในปีนี้
การอ่านค่าดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ใหม่ – ซึ่งใช้วัดอัตราเงินเฟ้อในระดับการค้าส่ง – ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคทำให้ปฏิทินเศรษฐกิจมีความสำคัญ ในขณะเดียวกัน รายงานรายได้อีกสองสามฉบับจะปิดในฤดูกาลการรายงานในไตรมาสที่สาม
เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐมีกำหนดจะประชุมกันในวันที่ 13-14 ธันวาคมนี้ และคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานอีก 50 จุด สมาชิกของ Federal Reserve ซึ่งจะพูดในที่สาธารณะก่อนการประชุมกำหนดนโยบาย
นักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Bloomberg คาดว่าดัชนี PPI ของเดือนพฤศจิกายนจะเพิ่มขึ้น 0.2% ซึ่งเพิ่มขึ้นเทียบเท่ากับเดือนก่อนหน้า ขณะที่ลดลงเหลือ 7.1% จาก 8.0% เมื่อเทียบเป็นรายปีในช่วงเวลาดังกล่าว Core PPI ซึ่งแยกส่วนประกอบอาหารและพลังงานที่ผันผวนออก คาดว่าจะเพิ่มขึ้นตามอัตรากำไรรายเดือนเดียวกันกับการอ่านพาดหัวข่าว ขณะที่ลดลงจาก 5.8% เป็น 6.7% เมื่อเทียบเป็นรายปี
“นโยบายการเงินส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อด้วยความล่าช้าที่ไม่แน่นอน และผลกระทบทั้งหมดจากการเข้มงวดอย่างรวดเร็วของเรา” เขากล่าว “ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่จะปรับอัตราการเพิ่มขึ้นของอัตราดอกเบี้ยของเราจะเข้าใกล้ระดับลดลงอาจจะเพียงพอที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อลดลง” Powell เสริมว่า “เวลาสำหรับการปรับอัตราการเพิ่มขึ้นของอัตราก็อาจมาในเร็ว ๆ นี้ในการประชุมเดือนธันวาคม”
- Bank of America คาดการณ์ว่าอัตราปลายทางจะไปถึง aช่วง 5.00%-5.25% “ความเสี่ยงต่อมุมมองของเราเกี่ยวกับนโยบายของเฟดนั้นเบ้ไปทางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นเนื่องจากความไม่สมดุลอย่างต่อเนื่องระหว่างอุปทานแรงงานและอุปสงค์แรงงาน” “การปรับขึ้นอย่างช้าๆ ดูเหมาะสมจากมุมมองของการบริหารความเสี่ยง แต่ในมุมมองของเรา ความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน มีแนวโน้มว่าหมายความว่าเฟดจะต้องเอนเอียงไปในทิศทางของการดำเนินการมากขึ้น ไม่น้อย เพื่อให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ในวิถีขาลงอย่างยั่งยืน ”
(ที่มา : สำนักข่าวYahoonews)