วิธีสร้าง Passive Income โดยเหรียญ Ethereum (ETH)

ตลาดคริปโตมีความเสี่ยงและความผันผวนที่สูงมาก ซึ่งเป็นเหมือนกับดาบสองคมกับเหล่านักลงทุนสามารถสร้างผลกำไรหรือขาดทุนได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตามกลยุทธ์รูปแบบ Passive Income สามารถชดเชยกับความเสี่ยงเหล่านี้ได้

หลักการ Holding หรือการถือยาวเคยเป็นวิธีหลักในการสร้างรายได้ให้กับนักลงทุนแต่ด้วยมีโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ที่เพิ่มขึ้นทำให้เรามีหลายวิธีที่จะได้รับดอกเบี้ยจากโปรโตคอล Ether และ DeFi

วิธีสร้าง Passive Income โดยเหรียญ Ethereum (ETH)

• Staking

หลักการ Staking คือการที่ล็อคเงินของเราไว้บนบล็อกเชน PoS เพื่อช่วยตรวจสอบความถูกต้องของธุรกรรมและรับรางวัล โดยรางวัลจะอยู่ในรูปแบบของเหรียญ ETH หรือเหรียญอื่นๆก็ได้

Ethereum staking คือวิธีที่ได้รับความนิยมในการสร้างรายได้แบบ Passive Income จากสกุลเงินดิจิทัล แต่ก็มีข้อเสียสำหรับนักลงทุนมือใหม่เช่นกัน ซึ่งเวอร์ชัน PoS ใหม่ต้องใช้อย่างน้อย 32 ETH หรือประมาณ 50,000 ดอลลาร์ เพื่อเรียกใช้โหนดตรวจสอบแบบเต็มและเข้าร่วมการ Staking

แต่ก็มีวิธีอื่นเช่นกัน นอกเหนือจากการ Staking โดยตรงแล้ว เรายังสามารถใช้บริการผู้ให้บริการเช่น StakeWise และ Lido เหล่านี้คือ DApps ที่ให้บริการ Ethereum staking โดยไม่ต้องรันโหนดแบบเต็ม ทำให้ผู้เข้าร่วมเครือข่ายสามารถเดิมพันด้วยจำนวนเงินที่น้อยที่สุด แต่มักจะคิดค่าธรรมเนียมสำหรับรางวัลสูงถึง 10% ซึ่งอาจตัดกำไร แต่อย่างน้อยก็ไม่จำเป็นต้องลงทุน 32 ETH ล่วงหน้า

• Hodl

เราสามารถลงทุนระยะยาวกับเหรียญ Ethereum ได้เช่นกัน โดยทั่วไปแล้วนักลงทุนคาดว่าราคาของเหรียญสามารถเพิ่มขึ้นได้ในอนาคตและสามารถขายเพื่อทำกำไรในอนาคตได้ วิธีนี้เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดและได้รับความนิยมมากที่สุดในการลงทุน วิธีนี้จะไม่ได้รับผลตอบแทนในทันทีแต่ก็สามารถสร้างผลกำไรได้หากเหรียญ ETH เพิ่มขึ้นจริงๆ เราได้เห็นเหรียญ Ethereum เติบโตอย่างมากตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง และปัจจุบันเป็นหนึ่งในสกุลเงินดิจิตอลที่มีค่าที่สุดในโลก ดังนั้นจึงมีโอกาสที่ดีที่ราคาจะเพิ่มขึ้นต่อไปในอนาคต

และล่าสุดในปัจจบันจากการสำรวจของ Charles Schwab ผู้จัดการสินทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาในเดือนตุลาคม ที่ชาวชาว Gen Z และ Millennials เกือบ 50% เลือก crypto ในกองทุนเพื่อการเกษียณ บวกกับมีจำนวนตู้ ATM คริปโตในปัจจบันเกือบ 40000 เครื่องแล้ว จะเห็นได้ว่าบิทคอยน์หรือสกุลเงินดิจิทัลนอกเหนือจาก ETH ได้รับความนิยมมากขึ้นตามลำดับ

• Automated trading หรือบอทเทรด

อีกวิธีหนึ่งสำหรับผู้ใช้ในการสร้างรายได้แบบพาสซีฟผ่านการลงทุน Ethereum คือการใช้บอทสำหรับการซื้อขาย Ether แบบอัตโนมัติ บอทซื้อขายอัตโนมัติคือโปรแกรมซอฟต์แวร์ที่ใช้อัลกอริธึมที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเพื่อซื้อและขายสกุลเงินดิจิทัลในการแลกเปลี่ยนตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน

อย่างไรก็ตามกลยุทธ์บอทเทรดไม่ได้สมบูรณ์แบบบางครั้งก็สร้างข้อผิดพลาดได้เช่นกัน ขายเร็วเกินไปหรือซื้อช้าเกินไป ดังนั้นเราต้องมีกลยุทธ์ในการจัดการที่ดี

• Lending หรือการให้ยืม

การให้กู้ยืมเป็นอีกวิธีหนึ่งที่นิยมสำหรับนักลงทุนในการสร้างรายได้แบบ Passive Income โดยทั่วไปแล้ว นักลงทุนจะทำกำไรโดยการให้ยืมเงินคริปโตแก่ผู้กู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูง ซึ่งสามารถทำได้ผ่านแพลตฟอร์มการให้กู้ยืมแบบรวมศูนย์หรือแบบกระจายอำนาจ

ซึ่งแพลตฟอร์มแบบรวมศูนย์ใช้งานได้ง่ายและให้ผลตอบแทนหรืออัตราดอกเบี้ยที่มากกว่าแต่ก็แลกมากับการมีความอ่อนไหวต่อการถูกแฮ็กและการละเมิดข้อมูลมากกว่า

ในทางกลับกัน แพลตฟอร์มการให้กู้ยืมแบบกระจายศูนย์ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับความปลอดภัย ความโปร่งใส ทำให้นักลลงทุนสามารถสร้างผลตอบแทนเพื่อให้ได้กำไรสูงสุด แต่ก็แลกมากับการใช้งานที่ยากมีความซับซ้อนมากกว่า ซึ่งต้องมีความรู้ในการใช้งานในระดับที่สูงขึ้น และอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะลดลงในแพลตฟอร์มแบบกระจายอำนาจ

• Liquidity mining หรือการขุดเหรียญ

Liquidity mining หรือ yield farming เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสร้างรายได้แบบ Passive Income โดยเป็นการที่ผู้ใช้ฝากเหรียญ Ether หรือสินทรัพย์อื่น ๆ เข้าไปในสภาพคล่องเมื่อมีเทรดเดอร์คนอื่นเข้ามา Swap หรือแลกเปลี่ยนคู่เหรียญ Liquidity Provider ก็จะได้ผลตอบแทนเป็นเหมือนกับค่า Fee จากนักลงทุนคนอื่นที่ทำธุรกรรมกลับมา เช่น Yearn.finance, SushiSwap และ Uniswap

อย่างไรก็ตามเป็นวิธีที่ค่อนข้างใหม่ ดังนั้นจึงอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ นอกจากนี้ อาจเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยง เนื่องจากราคาของสินทรัพย์อ้างอิงอาจผันผวนอย่างรวดเร็ว นำไปสู่การสูญเสีย

(ขอบคุณข้อมูลจาก : cointelegraph.com)