มีผู้แพ้ก็ต้องมีผู้ชนะ คนที่ได้ประโยชน์จริงๆ จาก US-China Trade War คือใครบ้าง โพสต์นี้มาหาคำตอบกัน

ความตึงเครียดของนโยบายทางการค้าที่ออกมาใหม่จาก "โดนัลด์ ทรัมป์" ตลอด 4 สัปดาห์ ได้สร้างหายนะแก่นักลงทุน จากกราฟของ Bloomberg จะเห็นว่าผลตอบแทนจากตราสารทุน (หุ้น) นั้นติดลบทั่วโลก รวมถึงสินค้า Commodity อื่นๆ ที่ไม่ใช่กลุ่ม Safe Asset เช่น น้ำตาล กาแฟ ข้าวสาลี ก็ปรับตัวลงเนื่องจากการชะลอการสั่งซื้อจากผู้ค้าทั่วโลก

นอกจากผลตอบแทนจากการลงทุนที่ต่ำลงแล้ว ธุรกิจในภาค Real Sector ก็ได้รับบาดเจ็บไม่แพ้กัน ยกตัวอย่าง ประเทศเกาหลีใต้ที่เริ่มปรึกษากันแล้วว่าจะยื่นให้ WTO เข้ามาจัดการปัญหา เนื่องจาก เกาหลีใต้ รวมถึงประเทศเอเชียอย่างเช่น ไทย มาเลเซีย ไต้หวัน เป็นประเทศส่งวัตถุดิบให้จีนผลิตสินค้าส่งออกทั่วโลก เอเชียจึงรับผลกระทบหนักทั้งภูมิภาค

แต่ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมน้ำมัน Trade War สร้างผลตอบแทนมหาศาลให้กับผู้ค้าน้ำมัน รวมถึงคนที่เข้ามาเก็งกำไรด้วย ความหวาดกลัวต่อสถานการณ์โลกดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น รวมถึงความต้องการในทรัพย์สินปลอดภัยอย่าง "ทองคำ" และ พันธบัตรรัฐบาลเยอรมัน (German Bunds) ส่วนประเทศ ส่วนประเทศในกลุ่ม Emerging Markets แม้จะได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของ USD ทำให้หนี้สาธารณะที่ต้องจ่ายจริงๆ มีมูลค่าลดลง แต่หากส่งสินค้าไปจีนไม่ได้ ก็จะทำให้รายได้ในระยะยาวมีปัญหา

#ปัจจัยสนับสนุนว่าน้ำมันและทองจะไม่ลงง่ายๆ

สิ่งที่จะหล่อเลี้ยงความหวาดกลัวนี้ต่อไป คือ บุคคลสำคัญที่มีแนวคิดแบบเดียวกับ "โดนัลด์ ทรัมป์" "จอห์น โบลตัน" (John Bolton) ซึ่งล่าสุดได้รับตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านความมั่นคงคนใหม่ ทั้งนี้เขาเคยดำรงตำแหน่ง รองรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ายกิจการควบคุมอาวุธและความมั่นคงระหว่างประเทศ เรียกว่าเป็นสายทหารตัวจริงที่พร้อมรับใช้อุดมการณ์ "American first"

สิ่งที่ทำให้นักลงทุนวิตก คือ "Bolton" เป็นนักการทูต "สายเหยี่ยว" ผู้นิยมแนวทางแข็งกร้าวทางทหารมากกว่าการเจรจาทางการทูต เขาประกาศสนับสนุนให้ USA บุกถล่ม Iraq เมื่อปี 2002 และเป็นคนที่ขอให้มีการเปิดการโจมตีเกาหลีเหนือก่อน ที่น่ากลัวกว่านั้น คือ "Trump" เองก็ยังชื่นชมเป็นอย่างมากที่มีแนวคิดตรงกัน

นักวิเคราะห์จึงเชื่อมั่นว่า มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ "Bolton" จะสนับสนุนให้ Trumpt ทำอะไรเสี่ยงๆ อย่างการสั่งการโจมตีทางอากาศใส่เกาหลีเหนือ และนั่นจะยิ่งทำให้นักลงทุนกลับไปถือครอง Gold และ Oil อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

#CAD ลงทุนในสกุลเงิน "ดอลลาร์แคนาดา" สามารถเป็นทางเลือกได้

USDCAD เป็นสกุลเงินที่เราจัดอยู่ในกลุ่ม "Commodity Currency" การเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนอ้างอิง แปรผันตรงกับราคาน้ำมัน เนื่องจากแคนาดาคือผู้ส่งออกพลังงานปิโตรเลียมดิบ แก๊สธรรมชาติ ราคาน้ำมันจึงมีผลต่อรายได้ประเทศของแคนาดา CAD มักแข็งค่าขึ้นตามราคาน้ำมันที่แพงขึ้น นี่จึงอาจเป็นโอกาสในการ Sell คู่เงิน USDCAD หากมันวิ่งกลับขึ้นมาบริเวณแนวต้าน

วิธีง่ายๆที่จะสร้างกำไรบนตลาด Forex อย่างต่อเนื่อง :
ลิงค์หน้าเว็บ : http://gkfxprime.link/Homethaitalkforex
ลิงค์โปรโมชั่น: http://gkfxprime.link/bonus55thaitalkforex
รายละเอียดบิทคอยน์ http://gkfxprime.link/bitcoinline

#CAD #USDCAD #WTI #Oil #TrdaeWar #เทรดค่าเงิน #เทรดน้ำมัน #สงครามการค้า

ขอบคุณรูปภาพจาก : Bloomberg[box]Modifly by GKFXPrime TH , on Thu March 29,2018[/box]